วิธีแก้ไขฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาใช้งานไม่ได้หรือหรือไม่พบบนคอมพิวเตอร์

มันฟังดูคล้ายๆกันไหม? ไม่ต้องคิดมากไป! มันอาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อใช้งานกับฮาร์ดดิสก์เก่ากับอุปกรณ์ใหม่ที่จะเกิด ไดรฟ์ไม่แสดงบนคอมพิวเตอร์ เราหลายๆคนอาจจะเคยเจอมาแล้ว

บทความนี้จะช่วยแก้ไขปัญหา ฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาใช้งานไม่ได้ มากไปกว่านั้นเราจะมาแนะนำเกี่ยวกับสาเหตุที่ฮาร์ดดิสก์ของโตชิบาไม่แสดงบนคอมพิวเตอร์หรือไม่รู้จักหรือการกู้คืนข้อมูลด้วย Recoverit รวมถึงการใช้งานฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาด้วย

เหตุผลเพราะอะไรฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาถึงใช้งานไม่ได้หรือไม่รู้จัก

มันมีหลากหลายเหตุผลที่ฮาร์ดไดรฟ์ใช้งานไม่ได้หรือแม้กระทั่งไม่แสดงบนหน้าจอบน Windows หรือ Mac

มาดูกันว่ามีเหตุการณ์ไหนที่จะสามารถเป็นไปได้บ้าง

• ช่องเสียบพังหรือชำรุด
• ปัญหาจากพาร์ติชันหรือระบบ
• ไดรฟ์เวอร์ของ Windows เก่า
• ไม่มีอักษรชื่อไดรฟ์กำหนดบนคอมพิวเตอร์
• โครงสร้างอ่านดิสก์ไม่ได้
• ดิสก์ดีดออกแบบกระทันหัน
• ไม่มีไฟฟ้า ไฟกระชากหรือไฟตก
• การโจมตีจากมัลแวร์
• ติดไวรัส
• ฮาร์ดไดรฟ์หรือระบบไฟล์มีความเสียหาย
• ไดรฟ์เวอร์ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์เก่า
• ไม่ได้อัปเดต OS

การแก้ไขปัญหาเหล่านี้นั้นสามารถทำได้โดยอัปเดตระบบปฏิบัติการบนคอมพิวเตอร์ ไดรฟ์เวอร์ หรือการเชื่อมต่อฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบา แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากคอมพิวเตอร์ยังไม่เจอหรือจำฮาร์ดไดรฟ์ให้ไปที่รายการแก้ไขด้านล่างเพื่อทำให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง

ฮาร์ดไดรฟ์โตชิบาใช้งานไม่ได้ - ปัญหาที่พบเจอได้ทั่วไปและการแก้ไข

ตารางรายละเอียดแบบย่อเกี่ยวกับปัญหา "ฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาทำงานไม่ได้" และมีวิธีแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

วิธีการแก้ไขฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาใช้งานไม่ได้บนคอมพิวเตอร์ Windows 10

นี่คือวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ไขเมื่อฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบามีปัญหาบน Windows 10/11 ถ้าใช้ Mac สามารถไปยังวิธีการแก้ไข ฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาใช้งานไม่ได้บน Mac

การแก้ไข 1: เช็คดูช่องเสียบและคอมพิวเตอร์

การเชื่อมต่อไดรฟ์กับอุปกรณ์ผ่าน USB แต่มองไม่เห็นบนหน้าจอสามารถลองใช้วิธีนี้ในการแก้ไขปัญหาดู

• เช็คที่ช่องเสียบ USB ว่าสะอาดไหม

ช่องสำหรับเสียบอุปกรณ์อาจจะมีฝุ่นอยู่และเมื่อใช้งานอาจจะมีความร้อนเลยใช้งานไม่ได้ เช็คให้มั่นว่าช่องเสียบสะอาด

• เช็คกับช่องเสียบอื่นๆด้วย

ถึงแม้ว่าช่องเสียบสะอาดแล้วแต่ยังเจอปัญหาอยู่ให้ลองกับช่องอื่นๆ ลองดูว่าปัญหานั้นแก้ได้ไหม ถ้ายังไม่สามรถแก้ปัญหาได้ให่ลองทำวิธีถัดไปในการซ่อมแซมฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบา

การแก้ไข 2: อัปเดตไดรฟ์เวอร์ฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบา

ถ้าหาก ฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาไม่เจอ บนคอมพิวเตอร์และอัปเดตไม่ได้ผ่าน Device Manager สามารถไปยังเว็บไซต์ทางการของโตชิบาเพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งเวอร์ชันล่าสุดของไดรฟ์เวอร์

การแก้ไข 3: อัปและถอนการติดตั้งไดรฟ์เวอร์ของดิสก์

ไดรฟ์เวอร์ที่เก่าแล้วสามารถทำให้การเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆไม่ได้และไม่ตอบสนองต่อการทำงานอีกด้วย คุณสามารถแก้ไขปัญหานี้ด้วยการอัปเดตไดรฟ์เวอร์ของดิสก์บนคอมพิวเตอร์ ทำตามขั้นตอนนี้เพื่อดูการอัปเดต

1. พิมพ์ Device Manager ในช่องการค้นหาบน Windows และคลิก Open คลิก Disk drives เพื่อเปิดส่วนนั้นขึ้นมา

   

2. คลิกขวาที่ฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาและเลือก Update driver

   

3. เลือก Search automatically for updated driver software และทำตามขั้นตอนจนเสร็จ

   

4. ถ้าอัปเดตไม่ได้ให้คลิกที่ Uninstall device เพื่อติดตั้งไดรฟ์เวอร์ ขั้นตอนนี้สามารถแก้ไขปัญหาของฮาร์ดไดรฟ์ ยกเลิกการเชื่อมต่อฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาและทำการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ เมื่อคอมพิวเตอร์บูตแล้วให่เชื่อมต่อฮาร์ดไดรฟ์กับคอมพิวเตอร์เพื่อดูว่ามันแสดงบนคอมพิวเตอร์
5. จากตัวเลือก Properties สามารถหาสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นได้

การแก้ไขที่ 4: ติดตั้ง Controllers ของ USB อีกครั้ง

USB ที่ใช้งานไม่ได้อาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาไม่แสดงบนคอมพิวเตอร์ ถ้าหากเพิ่งติดตั้งไดรฟ์เวอร์ USB ใหม่มันอาจจะป้องกันการตรวจเจอหรือเกี่ยวกับการจดจำอุปกรณ์บนคอมพิวเตอร์ นี่คือเป็นขั้นตอนการแก้ไข

1. พิมพ์ Device Manager ลงในช่องการค้นหาของ Windows และคลิก Open

   

2. คลิกที่ Universal Serial Bus (USB) controllers และขยายหน้าต่างส่วนนี้ขึ้นมา

   

3. คลิกขวาที่ USB port ทำเครื่องหมายสีเหลือง และเลือก Uninstall device ยกเลิกการเชื่อมต่อกับฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาและรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์สำหรับติดตั้ง USB controllers ใหม่ คุณจะมองเห็นฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาได้แล้วตอนนี้บทคอมพิวเตอร์

   

การแก้ไขที่ 5: เปิดการใช้งานการรองรับ USB รุ่นเดิม

เมื่อ ฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาไม่แสดง บนคอมพิวเตอร์ Windows 10 มันอาจจะเกิดจากการใช้งานของตัวรองรับ USB ปิดใช้งานอยู่ เปิดการใช้งานได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. ทำการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์และไปยังฟีเจอร์ของ BIOS ด้วยการกดปุ่มที่อยู่บนคอมพิวเตอร์
2. ไปยังที่ Advanced และเลือกที่ USB configuration
3. คลิกที่ Legacy USB Support และเลือก Enabled
4. ออกจากหน้าต่างนั้นและบันทึกการเปลี่ยนแปลง

   

การแก้ไขที่ 6: เปิด USB Hub และแสดงอุปกรณ์ที่ซ่อนอยู่ทั้งหมด

ถ้าหากเปิดการใช้งาน USB selective suspend บนคอมพิวเตอร์ระบบจะทำการระงับในแต่ล่ะพอร์ตเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับไดรฟ์อื่นๆ ระบบกันสะเทือนเป็นประโยชน์กับแล็ปท็อปเพราะช่วยให้ประหยัดกับแบตเตอรี่ เปิดการใช้งาน USB hub ด้วยวิธีเหล่านี้

1. พิมพ์ power plan ลงบนช่องการค้นหาและเลือก Choose a power plan
2. คลิกบน Change plan settings และย้ายไปที่ Change advanced power settings

   

3. เปิดหน้าต่าง USB settings และขยายหน้าต่าง USB selective suspend setting
4. ถ้าสามารถเปิดใช้งานได้คลิกที่ Disabled
5. คลิกที่ Apply และจากนั้น OK.

   

ถ้าอุปกรณ์ยังมองไม่เห็นให้พิมพ์ devmgmt.msc เพื่อรันในกล่องโต้ตอบเพื่อเปิด device manager และเลือก Show hidden devices โดยคลิกเพื่อดู

การแก้ไขที่ 7: เช็คการอัปเดต Windows

บางครั้งการใช้งาน Windows เก่าทำให้ฮาร์ดไดรฟ์เข้ากันไม่ได้กับอุปกรณ์และไม่แสดงบนคอมพิวเตอร์ การอัปเดต Windows เวอร์ชันล่าสุดจะช่วยให้แก้ปัญหาตรงนี้ ทำตามขั้นตอนนี้ได้เลย

1. พิมพ์ windows update ในช่องการค้นหา คลิกที่ Check for updates เพื่อดูเวอร์ชันล่าสุด ตอนนี้สามารถรอจนกว่าการอัปเดตเสร็จเรียบร้อย

   

2. ถ้าการอัปเดตสามารถทำได้มันจะมีลิงค์ขึ้นมา แต่ถ้าหากว่าระบบมีการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าแล้วจะไม่มีการอัปเดตสำหรับระบบ
3. ถ้ามีการอัปเดตให้คลิกที่ Download and install เพื่อทำการติดตั้ง
4. Windows จะติดตั้งการอัปเดตแบบอัตโนมัติ เมื่อการอัปเดตติดตั้งแล้วถ้ามีการกำหนดเวลา Restart ให้การรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์จนเสร็จการอัปเดต

การแก้ไขที่ 8: สแกนหาไวรัส

การสแกนหาไวรัสมันมีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาของฮาร์ดไดรฟ์ที่ใช้งานบนคอมพิวเตอร์บน Windows เพราะมัลแวร์หรือไวรัส นี่คือการสแกนหาไวรัสด้วย Windows Defender ซึ่งมีติดตั้งอยู่ในซอฟต์แวร์ใน Windows 10:

1. กดที่ปุ่ม Windows และพิมพ์ Windows Security ในช่องการค้นหา คลิกที่แอปพลิเคชัน Windows Security ในช่องการค้นหาและเปิดมันขึ้นมา

   

2. ในหน้าต่าง Windows Security คลิกที่ Virus & threat protection ด้านบนซ้ายบนเมนู

   

3. ใต้ส่วนของ Current threats คลิกที่ Quick scan เพื่อทำการสแกนของระบบบนคอมพิวเตอร์ หรืออีกวิธีคลิกที่ Scan options เพื่อเลือกวิธีการสแกนอย่างเช่น Full scan หรือ Custom scan

   

4. ถ้าหากเลือก Custom scan มันจะทำการสแกนไฟล์ที่เฉพาะหรือไดรฟ์ที่ต้องการทำการสแกน เลือกฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาจากลิสท์และคลิกที่ Scan now
5. Windows Defender จะเริ่มทำการสแกนบนฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาสำหรับหาไวรัสและมัลแวร์ เวลาที่ใช้ในการสแกนจะขึ้นอยู่กับขนาดของฮาร์ดไดรฟ์และจำนวนของไฟล์ที่มี

   

6. เมื่อการสแกนเสร็จแล้ว Windows Defender จะแสดงผลลัพธ์ ถ้าหากมีสิ่งที่คุกคามให้ทำตามคำแนะนำและลบไฟล์ที่ติดไวรัส
7. หลังจากที่ตรวจเจอสิ่งที่คุกคามแล้วให้รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์และเช็คว่าฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาทำงานได้ปกติหรือยัง

การแก้ไขปัญหาที่ 9: การกู้คืนข้อมูลด้วยซอฟต์แวร์กู้คืนข้อมูล

ถ้าลองทำวิธีข้างต้นแล้วหากว่าฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบายังไม่แสดงบนคอมพิวเตอร์ให้ลองใช้ซอฟต์แวร์การกู้คืนข้อมูลดู คำเตือนข้างต้นจะทำให้ไม่เสียข้อมูลระหว่างการแก้ไขปัญหาไปมากกว่านี้

นี่เป็นวิดีโอสอนที่เราเลือกมาให้ Wondershare Recoverit Recoverit เป็นเครื่องมือการกู้คืนข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและสามารถกู้ข้อมูลกลับมาจากฮาร์ดไดรฟ์บนคอมพิวเตอร์ Windows หรือ Mac

ซอฟต์แวร์ Wondershare Recoverit

• กู้คืนข้อมูลจากฮาร์ดไดรฟ์ทุกแบรนด์รวมทั้ง LaCie WD Samsung SanDisk เป็นต้น
• สามารถรองรับสถานการณ์การสูญหายของข้อมูลได้มากกว่า 500 รูปแบบรวมถึงการลบ การฟอร์แมตและดิสก์เสียหาย
• เป็นมิตรกับผู้ใช้งานและใช้เวลาไม่นานในการกู้คืนข้อมูล

ดาวน์โหลดฟรี ดาวน์โหลดฟรี เรียนรู้เพิ่เติม

นี่คือวิธีการกู้คืนข้อมูลจากฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาซึ่งสามารถทำตามขั้นตอนได้ ดังนี้

1. ดาวน์โหลด ติดตั้ง และไปยัง Recoverit บนคอมพิวเตอร์
2. ใช้ Recoverit ไปยัง Hard Drives and Locations และเลือกไดรฟ์ของโตชิบาในส่วนของ External Drives

   

3. ให้ Recoverit สแกนไปยังแหล่งที่ข้อมูลหายไป

   

4. ดูตัวอย่างจากการสแกนและคลิกที่ Recover เพื่อกู้คืนข้อมูลกลับมา

   

เมื่อ Recoverit กู้คืนกลับมาแล้วให้บันทึกไว้ในแหล่งจัดเก็บใหม่หรือสำรองข้อมูลไว้ที่อื่นด้วย

การแก้ไขที่ 10: เริ่มต้นฮาร์ดไดรฟ์

สำหรับ Windows ที่หาฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาไม่เจอสามารถเริ่มต้นฮาร์ดไดรฟ์เพื่อให้มันแสดงขึ้นมาได้ คอมพิวเตอร์ตรวจไม่พบ HDD ไม่ว่าจะเป็นบล็อกไดรฟ์พัง การเชื่อมต่อไม่ดี MBR เสียหาย เป็นต้น นี่คือการแก้ไข

1. พิมพ์ Disk Management ในช่องการค้นหาบน Windows และคลิก Open คลิกขวาที่ฮาร์ดดิสก์ที่ยังไม่ใช้งานและเลือก Initialize Disk

   

2. เลือกรูปแบบพาร์ติชันและกด OK ตัวเลือก MBR มันเหมาะสำหรับการสร้างพาร์ติชันของ BIOS GPT สามารถช่วยสร้างพาร์ติชันมากกว่า 4 ตัวและเหมาะกับดิสก์ที่มีขนาดใหญ่กว่า 2TB ขึ้นไป ทำตามขั้นตอนนี้

   

การแก้ไขปัญหาที่ 11: เปลี่ยนไดรฟ์พาร์ทและตัวอักษร

การเปลี่ยนไดรฟ์พาร์ทหรือตัวอักษรบมฮาร์ดดิสก์ของโตชิบาอาจจะช่วยซ่อมแซมระบบไฟล์บนไดรฟ์ได้ การซ่อมแซมนี้สามารถแก้ไขระบบไฟล์ที่มีปัญหาซึ่งเป็นหึ่งในสาเหตุหลักของฮาร์ดไดรฟ์โตชิยาใช้งานไม่ได้หรือไม่แสดงบนคอมพิวเตอร์

นี่คือการเปลี่ยนอักษรบนฮาร์ดไดรฟ์

1. พิมพ์ Disk Management ในช่องการค้นหาบน Windows และคลิก Open
2. คลิกขวาที่ฮาร์ดไดรฟ์โตชิบสและเลือก Change Drive Letter and Paths

   

3. ใส่อักษรและไดรฟ์พาร์ทใหม่ลงไปในฮาร์ดไดรฟ์โตชิบา

   

4. เลือก Change ในหน้าต่างใหม่และคลิก OK เพื่อเปลี่ยนอักษรบนไดรฟ์

   

เปลี่ยนอักษรบนไดรฟ์และพาร์ทเพื่อไม่ให้ไฟล์ลบออกจากไดรฟ์ มันสามารถซ่อมแซมระบบไฟล์เพื่อทำให้คอมพิวเตอร์ตรวจเจอ ถ้าหากว่าฮาร์ดไดรฟ์ไม่สามารถซ่อมแซมได้สามารถเปลียนอักษรกลับไปเหมืนเดิมก่อนหน้านี้

การแก้ไขที่ 12: ใช้คำสั่ง CHKDSK

ถ้าวิธีข้างต้นไม่สามารถใช้งานได้ให้ลองใช้คำสั่ง chkdsk ตามขั้นตอนต่อไปนี้ ฟีเจอร์นี้บนวิดีโอสามารถแก้ไขปัญหาหลายๆอย่างบนคอมพิวเตอร์ได้ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดไดรฟ์พัง ไดเร็กเทอรี คลัสเตอร์ใช้งานไม่ได้ เป็นต้น

พิมพ์ cmd บนช่องค้นหาบนคอมพิวเตอร์และเลือก Run as Administrator ทำตามขั้นตอนนี้เพื่อแก้ไขปัญหาด้วยชุดคำสั่ง chkdsk

1. พิมพ์ chkdsk *: f/ ในช่อง CMD และกด Enter (เปลี่ยนสัญลักษณ์ * ให้เป็นตัวอักษรบนฮาร์ดไดรฟ์โตชิบา)

   

2. รอ cmd ให้ทำงานเรียบร้อย

   

3. เมื่อ CMD ทำงานเรียบร้อยแล้วให้พิมพ์ exit และกดปุ่ม Enter. ถอดฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาก่อนและรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ เชื่อมต่อฮาร์ไดรฟ์อีกครั้งและดูว่ามันแสดงขึ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ไหม

การแก้ไขที่ 13: พาร์ติชันของไดรฟ์

ถ้าหาก Windows ไม่สามารถจำฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาได้ให้ไปที่พาร์ติชันเพื่อทำการแก้ไขให้สามารถมองเห็น สร้างพาร์ติชันใหม่บนไดรฟ์ในคอมพิวเตอร์เพื่อให้หาและใช้พื้นที่ที่ยังไม่ได้ นี่คือขั้นตอนต่างๆ

1. พิมพ์ Disk Management ในช่องการค้นหาบน Windows และคลิก Open คลิกขวาที่พื้นที่ว่างและเลือก New Simple Volume และคลิก Next

   

2. เลือก Simple volume size in MB และ Next

   

3. ใส่ตัวอักษรและพาร์ทไปยังพาร์ติชันใหม่บนฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาและคลิก Next และ Finish เพื่อให้เรียบร้อย

การแก้ไขที่ 14: ฟอร์แมตไดรฟ์

การฟอร์แมตไดรฟ์ของโตชิบาทำให้การทำงานของฮาร์ดไดรฟ์กลับมาใช้งานได้ไม่ว่าจะเกิดจากไม่ตรวจเจอบนคอมพิวเตอร์ เช่น ระบบเข้ากันไม่ได้ระบบไฟล์เสียหาย เซกเตอร์พัง ไวรัสหรือมัลแวร์ รวมทั้งการเปลี่ยนรูปแบบของพาร์ติชัน แต่อย่างไรก็ตามมันสำคัญที่ต้องทำการสำรองข้อมูลหรือใช้เครื่องมือการกู้คืนข้อมูลหลังจาการฟอร์แมตไปแล้วเพื่อให้ข้อมูลที่หายไปกลับมา

1. ไปยังเมนู Start คลิกขวาที่ไอคอนและเลือก Disk Management.

   

2. มองหาฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาในส่วนของ Volume และคลิกขวาที่ Format

   

3. ทำเครื่องหมายถูกที่ Perform a quick format และคลิก OK. คลิก OK อีกครั้งเพื่อยืนยันการฟอร์แมต

   

ถ้าหากฟอร์แมตไปโดยไม่ได้สำรองข้อมูลไม่ต้องตกใจไปเพราะสามารถ กู้คืนข้อมูลกลับมาจากฮาร์ดไดรฟ์ได้ ด้วยตัวเองโดยใช้ Wondershare Recoverit

การแก้ไขที่ 15: แสดงไฟล์ที่ซ่อนอยู่ในฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบา

การแสดงไฟล์ที่ซ่อนอยู่ด้วยชุดคำสั่งสามารถช่วยให้แก้ปัญหาของฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาได้ให้คอมพิวเตอร์ตรวจพบและมองเห็นไฟล์ สำหรับการแสดงไฟล์บนคอมพิวเตอร์ Windows สามารถทำตามได้ขั้นตอน ดังนี้

1. กด Windows key + R พร้อมกันเพื่อเปิดกล่อง Run dialog
2. พิมพ์ "cmd" ในกล่อง Run dialog และกด Enter นี่จะเป็นการเปิด Command Prompt
3. ใน Command Prompt เพื่อไปยังฮาร์ดไดรฟ์โดยการใส่อักษรที่ไดรฟ์ตามด้วย เครื่องหมายทวิภาค (:) และกด Enter อย่างเช่นถ้าฮาร์ดไดรฟ์ใส่ตัวอักษร E ให้พิมพ์ "E:" และกด Enter
4. ตอนนี้พิมพ์ชุดคำสั่งต่อไปนี้และกด Enter เพื่อแสดงไฟล์ทั้งหมดและโฟลเดอร์ฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบา attrib -h -r -s /s /d *.*
5. รอให้ชุดคำสั่งให้ทำงานเรียบร้อยซึ่งอาจจะใช้เวลาสักพักโดยขึ้นอยู่กับจำนวนไฟล์และโฟลเดอร์ของฮาร์ดไดรฟ์โตชิบา
6. เมื่อชุดคำสั่งทำงานเสร็จเรียบร้อยและให้เช็คว่าฮาร์ดไดรฟ์ใน File Explorer ไฟล์ทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ก่อนหน้าและโฟล์เดอร์จะมองเห็น

วิธีแก้ไขที่ 16 รีบูตคอมพิวเตอร์ในเซฟโหมด

ถ้าหากว่าขั้นตอนการแก้ไขข้างต้นทำไม่ได้ให้บูตคอมพิวเตอร์ในเซฟโหมดเพื่อดูว่าฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาใช้งานได้หรือยัง

1. คลิกขวาที่ Start menu > Settings
2. ไปที่ Update > security และคลิก Recovery > Advanced startup > Restart now
3. กด F4 เพื่อไปยังคอมพิวเตอร์ใน Safe Mode เมื่อมีหน้าจอ Startup Settings ขึ้นมา
4. เช็คว่าฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาตรวจพบบนคอมพิวเตอร์ไหม

บทส่งท้าย

ถึงแม้ว่าฮาร์ดไดรฟ์ของโตชิบาจะรองรับกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หลายๆแบบกับช่อง USB มีความทนทานและใช้งานได้นานแต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดปัญหาเลย

อย่างไรก็ตามสามารถแก้ไขปัญหาส่วนใหญ่กับการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องได้ ถ้าหากว่าฮาร์ดไดรฟ์โตชิบาตรวจไม่พบบนคอมพิวเตอร์สามารถใช้วิธีด้านล่างนี้เพื่อแก้ไขมัน

อย่าลืมว่าการสำรองข้อมูลนั้นสำคัญมากเพื่อไม่ให้ไฟล์หายไป ถ้าหากลืมสำรองข้อมูลสามารถใช้ Wondershare Recoverit เพื่อนำไฟล์ที่หายไปกลับมา