Jun 12, 2024 • Filed to: Answer Hard Drive Problems
เมื่อเปิด Windows ขึ้นมาและไปยัง This PC ไดรฟ์จะแสดงขึ้นมาเป็นอย่างแรกใช่ไหม? มันมีความแตกต่างกันอย่างไร? ในแต่ล่ะไดรฟ์มีอักษรไดรฟ์ต่างกัน อักษรเหล่านี้จะช่วยให้ระบุได้ว่า SSD มาจากไดรฟ์อื่นและยังช่วยให้ Windows จดจำและเข้าถึง SSD ได้
เมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น SSD ได้ถูกซ่อนใน Windows ใช่ไหม? ถูกต้องเพราะการใช้แอปพลิเคชันบน Windows กลายเป็นปัญหาในขณะที่ย้ายไฟล์ระหว่างไดรฟ์นั้นจะใช้ไม่ได้เลย นั่นเป็นเพราะตัวอักษรบนไดรฟ์นั้นหายไป ใช้วิธีเหล่านี้เพื่อทำการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
SSD สามารถมีข้อผิดพลาดได้และเพื่อการแก้ไขปัญหานั้นจะต้องมาดูถึงเหตุผลเหล่านั้น ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการแก้ไขในตอนนี้ มันจะมีวิธีในส่วนต่อไป การที่รู้ของสาเหตุจะทำให้เราเข้าใจมากขึ้น
มันดูตลกมากที่ SSD ตัวใหม่ใช้ไม่ได้ใช่ไหม? มันมีวิธีการแก้ไขอย่างง่าย เพียงแค่ เริ่มต้นใช้งาน SSD จากนั้นมันสามารถใช้ได้เลย
ปัญหานี้สามารถบอกได้เลยว่าเป็นเพราะไดรฟ์เวอร์ที่ล้าสมัย จำไว้ว่า SSD เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ที่ใหม่กว่าบน Windows นั้นอาจจะต้องทำการอัปเดตไดรฟ์เวอร์เพื่อให้ตรวจจับ SSD ได้ สามารถใช้ "Device Manager" บน Windows เพื่อทำการอัปเดตไดรฟ์เวอร์ มากไปกว่านั้นสามารถใช้เครื่องมืออื่นๆในการอัปเดตไดรฟ์เวอร์ได้
ปัญหาพื้นฐานเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับ HDD และ SSD Windows จะทำงานได้น้อยลงเมื่อไม่สามารถกำหนดอักษรชื่อไดรฟ์กับพาร์ติชัน ซึ่งมันอาจจะเกิดจากระบบเองหรือแม้กระทั่ง SSD ด้วย หรือการแก้ไขปัญหานี้อย่างง่ายๆเลยคือการกำหนดอักษรบนไดรฟ์ด้วยตัวเองโดย "Disk Management."
ต้องเช็คการเชื่อมต่อซึ่งดูให้แน่ใจว่า SSD's USB นั้นถูกเชื่อมต่ออย่างถูกต้องกับพอร์ตบนคอมพิวเตอร์ ดูให้มั่นใจว่ามันถูกเสียบเข้าไปแบบสนิท รวมทั้งการดูว่าสายเคเบิลใช้งานได้ไม่ได้มีความเสียหายใดๆ เพราะมันอาจจะเป็นปัญหาได้
ซึ่งการเช็คแบบนี้จะไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับ Windows เลย ปัญหาอาจจะมาจากฮาร์ดแวร์หรือสาย USB ที่รีบเสียบสายเร็วเกินไป
วิดีโอล่าสุด จาก Recoverit
ดูเพิ่มเติม >รายการข้อผิดพลาดต่างๆข้างต้นมีเพียงไม่กี่ข้อที่อาจจะสร้างความเสียหายให้กับ SSD ตอนนี้ถึงเวลาที่คุฯจะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยตัวเอง เพราะอะไรถึงเป็น 7 วิธีการแก้ไข?
นั่นเป็นเพราะเลข 7 เป็นเลขแห่งความโชคดีใช่ไหม? จากการสังเกตุที่ผ่านมาในการแก้ไขข้อผิดพลาดและปัญหาต่างๆนั้นจะมีไปไม่มากกว่า 7 วิธีการแก้ไขเพื่อแก้ปัญหาของ SSD
มันไม่มีทางอื่นเลยถ้าหากฮาร์ดแวร์นั้นเสียหาย ซึ่งจะมีวิธีที่มีประโยชน์จะเอามาอธิบายไว้ที่นี่ คุณเห็นรูปภาพที่มีข้อผิดพลาดเหล่านี้ไหม?
มันคือข้อผิดพลาดของ SSD เมื่อมีความเสียหายเิกิดขึ้นและไม่สามารถเข้าใช้งานได้บน Windows คุณสามารถทำตามนี้เพื่อแก้ไขมันได้
SMART Attributes/Command Prompt/Properties
SMART คือเครื่องมือพื้นฐานบน Windows ที่จะทำการวิเคราะห์และตรวจสอบพารามิเตอร์ของ SSD ถ้าการวิเคราะห์ของ SSD แล้วขึ้นว่า "Caution" หรือ "Bad" หรือ "Unknown" นั่นหมายความว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ SSD มีความเสียหาย สิ่งที่ต้องทำเลยคือการสำรองข้อมูลก่อนที่จะมีความเสียหายเกิดขึ้น ใช้เครื่องมือ SMART ด้วยการทำแบบนี้
1. กดที่ "Windows" + "S" และพิมพ์ "command prompt" เมื่อชุดคำสั่งเปิดขึ้นมาแล้วให้คลิกขวาและเลือก "Run as administrator."
2. พิมพ์ wmic diskdrive get status ในช่องชุดคำสั่งอีกครั้ง
ถ้าหากว่ายังเห็นคำเตือน "Bad" และ "Caution" อยู่รู้ไหมต้องทำอะไร? แต่ถ้ามีผลลัพธ์แบบด้านล่างแล้วให้ปิดชุดคำสั่งแล้วไปยังขั้นตอนถัดไป
3. คำสั่ง "chkdsk" สามารถแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้โดยเฉพาะปัญหาเล็กๆน้อยๆ ไปยัง "command prompt" อีกครั้งและเลือก "Run as administrator."
4. พิมพ์คำสั่ง และกด "Enter"
CHKDSK [volume [[path] filename]] [/F] [/V] [/R] [/X] [/C] [: size]]
ในช่องคำสั่งด้านบน [/F] จะพยายามแก้ไขข้อผิดพลาดของระบบขณะที่ [/R] จะแก้ไขเซกเตอร์ที่เสีย
5. ถ้าหากว่า SMART และชุดคำสั่งนั้นใช้งานไม่ได้ให้กดที่ "Windows" + "E" พร้อมกัน ไปยัง SSD และคลิกขวาตรงนั้น
6. เลือก "Properties" และเลือก "Tools" จากนั้นคลิกที่ "Check" รีบูตคอมพิวเตอร์เมื่อขั้นตอนเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว
คำเตือนที่ว่าอย่าใส่ไข่ไว้ในตระกร้าใบเดียวกันมันมีความหมายเสมอ ในบางครั้งฮาร์ดแวร์มีความเสียหายอาจจะมีความรุนแรงและดีที่สุดคือให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยเหลือในการเปลี่ยน
1. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์และกด "F2" (ขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์ในแต่ล่ะรุ่นหรือผุ้ผลิต) และกด "Enter" เพื่อไปยัง "Config."
2. เลือก "Serial ATA" และกด "Enter." คุณจะมองเห็น "SATA Controller Mode Option". เลือก "IDE Compatibility Mode."
3. บันทึกการเปลี่ยนแปลงและรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์เพื่อไปยัง BIOS ซึ่งในตอนนี้จะทำให้ SSD ตรวจพบบนคอมพิวเตอร์
เหมือนกับคอมพิวเตอร์ทั่วไปที่เมื่อ SSD ทำงานได้ไม่ดีจะต้องเจอกับไดรฟ์เวอร์ที่ล้าสมัย
1. กดที่ "Windows" และพิมพ์ "Device Manager" ในช่องการค้นหาเริ่มต้น คลิกและกด "Enter"
2. ไปยัง "Disk drives" และขยายหน้าต่างออกจากนั้นคลิกขวาเลือกทุกตัวและคลิก "Update driver." เมื่ออัปเดตผ่านการรีบูตคอมพิวเตอร์
1. กด "Windows" + "R" พร้อมกัน จะมี "Run" แสดงขึ้นมาบนหน้าจา พิมพ์ชุดคำสั่งในช่องการค้นหา diskmgmt.msc.
2. เมื่อกด "Enter" แล้ว "Disk Management" จะเปิดขึ้นมา จากนั้นระบบจะให้เริ่มต้น SSD เพื่อการตำเนินการต่อ ปิดทั้ง "MBR" หรือ "GPT" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระบบของคอมพิวเตอร์ด้วยจากนั้นคลิก "OK."
3. กลับไปยัง "Disk Management" และคลิกขวาบน "Volume" ของ SSD เลือก "Initialize Disk"
4. เมื่อเสร็จแล้วให้คลิกขวาที่ SSD volume อีกครั้งและเลือก "New Simple Volume" ทำตามคำแนะนำแล้วมันจะให้ใส่ตัวอักษรพิมพ์ชื่อโวลลุ่มและชื่อระบบ (ไม่ว่าจะเป็น exFAT หรือ NTFS ) คลิกที่ "Next" และ SSD จะสามารถเข้าถึง "File Explorer."
1. ไปยัง "Disk Management" และดูให้แน่ใจว่าไดรฟ์ข้อมูล SSD ไม่ได้รับการจัดสรร หรือเปลี่ยนเป็นไฟล์ RAW รวมทั้งมันว่างอยู่ไหม ถ้าหากใช่หรือมีหนึ่งในนั้นที่กล่าวมาการฟอร์แมตไดรฟ์ง่ายต่อการแก่ไขปัญหานี้
2. ถ้าหาก SSD ใหม่มันจะไม่มีข้อมูลดังนั้นจึงสามารถทำการฟอร์แมตได้เลย คลิกขวาที่ volume บน SSD และคลิก "Format."
3. หน้าต่างทีี่เหมือนกันจะขึ้นมาและให้ใส่รายละเอียดต่างๆ ซึ่งสามารถจัดเรียงพาร์ติชันและเปลี่ยนระบบไฟล์ได้ที่นี่
4. ข้อความสุดท้ายจะแสดงขึ้นมาเพื่อนเตือนสำหรับข้องมูลอาจจะหาย คลิกที่ "OK" เพื่อฟอร์แมต
1. ไปยัง "This PC" และคลิกขวาแล้วเลือก "Manage" ในเมนูของ "Storage" เลือก "Disk Management."
2. คุณจะมองเห็นพาร์ติชันของ SSD ไปที่รายการนั้นเลือกเลือกตัวที่ไม่มีอักษร คลิกขวาแล้วเลือก "Change Drive Letter and Paths."
3. คลิกที่ "Add" จากนั้นเลือกระบุอักษรไดรฟ์จากเมนูแบบเลื่อนลง คลิก "OK" เพื่อสิ้นสุดกระบวนการ
คำถาม: มันจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อทำการฟอร์แมต SSD ไปแล้วแต่ต้องการไฟล์กลับมา? มันก็ต้องตกใจมากเลยที่ต้องคิดต่อมาว่าทำอย่างไรให้ได้ไฟล์พวกนั้นกลับมา
ไม่ต้องคิดอีกต่อไปเพราะ Wondershare Recoverit จะกู้คืนข้อมูลเหล่านั้นกลับมา ในฐานะของเครื่องมือการกู้คืนข้อมูลนั้น Recoverit มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการกู้คืนข้อมูลกลับมาได้ทั้งหมด
ซอฟต์แวร์ไม่ได้เพียงแต่กู้ข้อมูลคืนกลับมาหรือ SSD ที่ใช้งานไม่ได้แต่มากกว่านั้นคือการที่สามรรถใช้กับ HDD ได้ผลดีเหมือนกัน Recoverit ได้รับการพัฒนามาเพื่อการทำงานทั้ง Windows และ macOS (มันมีเวอร์ชันที่แยกกันสำหรับระบบปฏิบัติการที่ต่างกัน)
ไม่ต้องกังวลว่าจะใช้งานไม่ได้เพราะ Recoverit สามารถกู้คืนข้อมูลกลับมาเพีงแค่ 3 ขั้นตอน ไปทำตามนี้กันเลย
สรุปอย่างง่ายๆเลยคือ Recoverit เลือกที่ SSD ดูตัวอย่างไฟล์และกู้คืนไฟล์เหล่านั้นกลับมา
SSD มีความซับซ้อนมากกว่า SDD ดังนั้นมันจึงไม่ควรใช้ซอฟต์แวร์กู้คืนข้อมูลพวกนี้ ไม่ต้องไปสนใจรีวิวอื่นและลองใช้ Recoverit ได้เลย
ฟีเจอร์ต่างๆนั้นมีประสิทธิภาพมากพอที่สามารถกูคืนข้อมูลได้จากทุกรูปแบบ ซอฟต์แวร์จะสแกนและกู้คืนข้อมูลกลับมาจากทุกที่ที่ต้องการ Recoverit ใช้งานได้ง่ายและมีพลังมหาศาลในการใช้งานของการกู้คืนข้อมูล
มันมีความปลอดภัยในการใช้บนคอมพิวเตอร์กับ SSD ไหม? ถ้าคอมพิวเตอร์ยังใช้ HDD ทำงานนั่นคือคุณต้องหยุดใช้มัน (พร้อมกับคุณด้วย)
เอาน่า มันปี 2019 แล้ว! ถ้าหากยังไม่ได้อัปเกรดหน่วยเก็บความจำบนคอมพิวเตอร์ไปยัง SSD ใช่ไหม รออะไรล่ะ? ไปยังไดรฟ์นั้นและทำได้เลย
ถึงแม้ว่ามันจะมีความทนพอๆกับ SSD ก็ตามแต่ต้องดูด้วยว่าการวางตำแหน่งของคอมพิวเตอร์นั่นจะสัมผัสกับความร้อนหรือเย็นของ SSD นั่นแหละมันต้องใช้เซ้นต์ให้มาก
ต้องรู้ว่าอย่าใช้ SSD ไปยังอุณหภูมิที่ร้อนจัดหรือเย็นเกินไป
ถ้าหากคอมพิวเตอร์ถูกตัดไฟไปขณะที่กำลังเขียนข้อมูลลงไดรฟ์ข้อมูลเหล่านั้นอาจจะหายไปเลย ต้องแน่ใจว่าคอมพิวเตอร์นั้นเชื่อมต่อสายไฟแล้วและมันดีพอที่จะใช้งาน
SSD แข็งแรงก็จริงแต่การมีไฟล์จำนวนมากในนั้นมันทำให้ช้าลงได้ นี่คือเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆเพื่อทำให้มีพื้นที่การจัดเก็บมากขึ้นมากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์บน SSD
เคล็ดลับนี้เหมือนจะได้บอกไปแล้วในการเขียนข้อมูลลงใน SSD ใช่ไหม? ใช่ แต่มีมากกว่านั้น การลบข้อมูลออกจาก SSD มันจะเพิ่มรอบการเขียนได้
อธิบายอย่างง่ายๆเลยคือ SSD คือยางลบดินสอที่จะสึกหรอไปจนใช้งานไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาอะไร SSD จะสามารถใช้งานได้หลายปีแต่นั่นจะต้องฟอร์แมตหรือลบข้อมูลออกไปบ้าง
มันดีที่มีการจัดเรียงข้อมูลบนฮาร์ดไดรฟ์แต่ไม่ใช้ SSD อย่างเช่นมันสามารถทำให้เกิดการเขียนเพิ่มเติมซึ่งจะกัดกินตามอายุการใช้งาน
SSD ราคาจะแพงกว่า HSS แต่ต้องดูแลอย่างต่อเนื่องเพื่อยืดอายุการใช้งานออกไป นั่นเป็นเพราะแค่อุปกรณ์ไม่ได้หมายความว่าจะใช้งานอย่างไรก็ได้ซึ่งอาจจะมีความเสียหาย ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วข้อมูลจะเสียหายมากกว่าที่คิด
หากไฟล์ต่างๆเสียหายไปให้ใช้ Recoverit Data Recovery เพื่อนำทุกอย่างกลับมา เวลาที่เสียไปในการให้ไฟล์นั้นเสี่ยงต่อการสูญหายนั้นจะต้องรีบทำมันเลย
Dea N.
staff Editor