แล็ปท็อปของคุณแบตเตอรี่หมดเร็วใช่ไหม ต่อไปนี้คือ 10 วิธีที่ได้ผลเพื่อแก้ไขมัน!

Dea N.

Jun 12, 2024 • Filed to: Windows Computer Solutions

ถ้าหากคำถามที่คล้ายกันเกี่ยวกับปัญหาแบตเตอรี่ของแล็ปท็อปนำคุณมาที่นี่ ดังนั้นคุณจะได้รับวิธีแก้ไขมันอย่างแน่นอน มันไม่สำคัญว่าคุณมีคอมพิวเตอร์ยี่ห้อใด แล็ปท็อปแบตเตอรี่หมดเร็ว เป็นปัญหาทั่วไปที่หลายคนเผชิญ นอกเหนือจากแบตเตอรี่มีการคายประจุผิดปกติ มันสามารถเกิดได้จากหลายปัญหาที่เกี่ยวกับซอฟแวร์ ในคู่มือนี้ เราจะบอกคุณถึงวิธีแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่ของแล็ปท็อปในวิธีที่ต่างกันไป

ส่วนที่ 1: ทำไมแล็ปท็อปของฉันแบตเตอรี่หมดเร็ว

ตามหลักแล้วสาเหตุที่พบมากที่สุดสำหรับความล้มเหลวของแบตเตอรี่ของแล็ปท็อปคือเก่าหรือแบตเตอรี่คายประจุ ถ้าแบตเตอรี่ของแล็ปท็อปเก่า อาจมีโอกาสที่มันจะคายประจุได้ง่ายและถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยน นอกเหนือจากนั้น ต่อไปนี้คือสาเหตุอื่นบางประการที่ทำให้เกิดปัญหาแบตเตอรี่ของแล็ปท็อป 

• อาจเป็นไปได้ว่ามีการทำงานอยู่เบื้องหลังที่มากเกินไป
• แอปพลิเคชั่นที่หนัก (เช่นเกมหรือแอปเดสท็อปอื่น ๆ) อาจใช้แบตเตอรี่เยอะ
• การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าระบบทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว
• ระบบของคุณทำงานด้วยแสดงสว่างสูงสุดหรือตัวเลือกขั้นสูงอื่น
• การเชื่อมต่ออนไลน์หรือเน็ตเวิร์กที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหานี้ได้
• เฟิร์มแวร์ที่ติดตั้งอาจเสียหายทำให้เกิดข้อขัดข้อง
• สาเหตุอื่น ๆ อาจเกิดจากไดร์เวอร์ขัดข้องหรืออุปกรณ์ต่อพ่วงมากเกินไปและอื่น ๆ

ส่วนที่ 2: จะแก้ไขปัญหาแล็ปท็อปแบตเตอรี่หมดเร็วได้อย่างไร

เพื่อแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่ของแล็ปท็อป Asus, Lenovo, Dell, หรือ HP คุณสามารถทำตามคำแนะนำต่อไปนี้: สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเฟิร์มแวร์ของระบบหรือการตั้งค่าผิดพลาด ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม ถ้าหากแบตเตอรี่ของแล็ปท็อปของคุณเก่าหรือเสื่อม คุณควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่แทน นี่คือ 10 วิธีการสำหรับคุณเพื่อแก้ไขปัญหานี้ คลิกเลือกตามที่คุณต้องการเพื่อการแก้ไขที่รวดเร็ว

ดูวิดีโอนี้ที่เราคัดสรรมาเพื่อคุณซึ่งคลอบคลุมสาเหตุทั่วไปที่ทำให้แบตเตอรี่แล็ปท็อปหมดเร็วและวิธีการแก้ไขปัญหา คุณสามารถสำรวจเพิ่มเติมจาก ชุมชนวิดีโอ Wondershare

วิดีโอล่าสุด จาก Recoverit

ดูเพิ่มเติม >

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าวิดีโอจะช่วยแก้ปัญหาการบริการด้านเสียงโดยทั่วไป ถ้าไม่ ด้านล่างนี้คือวิธีการแก้ปัญหาอื่น โปรดอ่านต่อจากนี้

1. ตรวจสอบความสว่างของหน้าจอ

คุณคงรู้แล้วว่าหน้าจอแสดงผลของระบบคืออุปกรณ์หลักอย่างหนึ่งที่ใช้แบตเตอรี่ ดังนั้น นี่คือสิ่งแรกที่เราจะแนะนำให้ตรวจสอบหากแบตเตอรี่หมดเร็ว คุณสามารถหาการตั้งค่าความสว่างได้บนแถบเมนูลัดหรือใช้รหัสฟังก์ชั่นเพื่อเพิ่ม/ลดระดับความสว่าง

หรือคุณสามารถไปที่ Settings > System > Display เพื่อปรับความสว่างของน้าจอ พยายามอย่าให้สว่างเกินไปเนื่องจากมันจะใช้งานแบตเตอรี่มากขึ้น

2. ปิดการใช้งาน Keyboard's Backlight

ในแล็ปท็อปพิเศษบางรุ่น เราจะพบฟีเจอร์ backlight บนแป้นพิมพ์ ซึ่งมันสามารถช่วยให้คุณพิมพ์ในที่มืดได้ และอาจเป็นสาเหตุให้แบตเตอรี่หมดเร็ว เพื่อแก้ปัญหานี้ คุณสามารถใช้ทางลัดบนแป้นพิมพ์ (อย่าง Function + F5 สำหรับ HP) เพื่อปรับระดับแสง

นอกเหนือจากนี้ คุณสามารถไปที่ระบบ Control Center > Mouse และ Keyboard และปิดการใช้งานฟีเจอร์นี้ซึ่งอยู่ในส่วน Keyboard Backlight

3. ปรับเปลี่ยนการตั้งค่าพลังงานของแล็ปท็อป

การเปลี่ยนแปลงต่างในการตั้งค่าพลังงานขอระบบของคุณเมื่อเร็ว ๆ นี้สามารถทำให้แล็ปท็อป HP หรือ Acer เกิดปัญหาแบตเตอรี่ได้ ตามหลักแล้วมันสามารถเกิดขึ้นได้กับแล็ปท็อปทุกยี่ห้อและสามารถแก้ไขได้ง่าย เพียงไปที่ Settings > System > Power & Sleep และปรับการตั้งค่าสำหรับการพักและเวลาหน้าจอเมื่อระบบเปิดหรือหยุดพักการทำงาน

ถ้าหากคุณต้องการ คุณสามารถไปที่ Additional Power Settings เพื่อรันการปรับความเหมาะสมหรือวางแผนความสมดุลของระบบ จากที่นี่คุณสามารถเลือกที่จะสร้างแผนการใช้พลังงานได้อีกด้วย

4. ลดการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์ก

ถ้าหากคุณมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์หรือเน็ตเวิร์กมากมายกับระบบของคุณ มันจะทำให้ใช้แบตเตอรี่เปลือง สำหรับสิ่งนี้ คุณเพียงแค่ไปที่ระบบ Settings > Network Connections เพื่อตรวจสอบการเชื่อมต่อที่ใช้งานในตอนนี้ ในบางเวอร์ชั่นของ Windows มันสามารถดูได้จาก Control Panel > Network และ Internet > Network Connections อีกด้วย

จากที่นี่คุณสามารถเลือกเน็ตเวิร์กใดก็ได้แล้วคลิกขวาและปิดการใช้งานหรือเลิกการเชื่อมต่อ สำหรับวิธีนี้คุณสามารถลดจำนวนของการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์กบนแล็ปท็อป

5. ถอดอุปกรณ์พ่วงที่ไม่ได้ใช้งานออก

นอกเหนือจากการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์ก คุณสามารถตรวจสอบอุปกรณ์ต่อพ่วงที่เชื่อมต่อกับระบบของคุณ ตัวอย่างเช่น ถ้าหากระบบเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน มันสามารถทำให้แบตเตอรี่ของแล็ปท็อปเกิดข้อผิดพลาดได้ ในกรณีนี้ คุณสามารถลองยกเลิกการเชื่อมต่อไดรฟ์ USB, เมาส์ไร้สาย, CD/DVD, ลำโพงบลูทูธ, หรืออุปกรณ์เชื่อมต่ออื่น ๆ

เพียงแค่ไปที่การตั้งค่าระบบเพื่อตรวจสอบหรือคลิกที่ไอคอนอุปกรณ์บน taskbar คลิกขวาเพื่อนำอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ออกอย่างปลอดภัยและยกเลิกการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วงที่ไม่ต้องการทั้งหมด

6. หยุดการทำงานของโปรแกรมที่ไม่จำเป็น

อาจจะมีหลายโปรแกรมที่และแอปพลิเคชั่นที่ไม่ต้องการกำลังทำงานอยู่เบื้องหลังและใช้งานแบตเตอรี่ เพื่อแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่ของ Dell คุณเพียงแค่คลิกแอปพลิเคชั่นที่อยู่พื้นหลังและปิดโปรแกรมที่ไม่ต้องการ คุณสามารถทำแบบนี้เพื่อแก้ไข Acer, Asus, HP, Lenovo และแล็ปท็อปรุ่นอื่น ๆ ได้อีกด้วย

เพียงแค่ไปที่แอปของคอมพิวเตอร์ของคุณ Settings > Privacy > Background หากคุณต้องการคุณสามารถคุณสามารถปิดฟีเจอร์แอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลังทั้งหมดหรือเพียงแค่เปิด/ปิดการใช้งานสำหรับแอปที่เลือกไว้ เราอยากจะแนะนำให้ปิดมันสักพักเพื่อป้องกันแอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลังมากเกินไป

7. นำไดรฟ์ดิสก์ที่เชื่อมต่ออยู่ออก

บางครั้งการเชื่อมต่อ CD หรือ DVD บนระบบสามารถทำให้เกิดปัญหาของแบตเตอรี่ได้ ดังนั้นคุณควรพิจารณาการย้ายไดรฟ์ดิสก์จากแล็ปท็อปโดยกดที่ปุ่ม eject ที่อยู่ด้านข้าง หากนั่นไม่ได้ผล ให้ไปที่ My Computer (This PC) แล้วคลิกขวาที่ไอคอนไดรฟ์ของดิสก์และคลิกที่ปุ่ม Eject ซึ่งมันจะเปิดไดรฟ์ดิสก์และคุณสามารถนำ CD หรือ DVD ออกมาได้

8. ปิดการทำงานฟีเจอร์หรือกระบวนการที่ไม่ต้องการ

ที่สำคัญที่สุดคือหากมีการดำเนินการหรือฟีเจอร์ทำงานอยู่เบื้องหลังมากเกินไป มันอาจทำให้เกิดปัญหาแบตเตอรี่ของแล็ปท็อปได้ เพื่อเรียกดูการดำเนินการและแอปพลิเคชั่นที่กำลังทำงานอยู่ ให้เปิด Task Manager บนระบบ แล้วกดปุ่มเหล่านี้รวมกัน Ctrl + Alt + Del or Ctrl + Shift + Esc จาก Task Manager คุณสามารถเลือกการดำเนินการหรือแอปพลิเคชั่นใดก็ได้ที่ไม้ต้องการและคลิกที่ปุ่ม End Task เพื่อปิดการทำงาน

นอกเหนือจากนี้คุณสามารถไปที่ Settings > Apps & Features และยกเลิกการติดตั้งแอปจากระบบ

9. อัปเดตอุปกรณ์ไดร์เวอร์และซอฟแวร์

ไดร์เวอร์และซอฟแวร์ที่ล้าสมัยอาจทำให้แล็ปท็อปของคุณใช้พลังงานมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ เพื่ออัปเดตอุปกรณ์ไดร์เวอร์ คุณสามารถไปที่เว็บไซต์ของผู้ผลิตแล็ปท็อปและดาวน์โหลดไดร์เวอร์ล่าสุดสำหรับแล็ปท็อปรุ่นของคุณ ยิ่งไปกว่านั้นคุณสามารถใช้ซอฟแวร์อัปเดตไดร์เวอร์ที่แสกนระบบของคุณอัตโนมัติและติดตั้งไดร์เวอร์เวอร์ชั่นล่าสุด สำหรับการอัปเดตซอฟแวร์ ให้ตรวจสอบการอัปเดตเป็นประจำจากการตั้งค่าหรือเมูนการตั้งค่าระบบของคุณและติดตั้งแอปพลิเคชั่น

10. เปลี่ยนแบตเตอรี่

การเปลี่ยนแบตเตอรี่เป็นการแก้ปัญหาโดยทั่วไปเพื่อแก้ไขปัญหาของแบตเตอรี่ เพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ สามารถเริ่มไปโดยปิดเครื่องแล็ปท็อปและถอดสายชาร์จออก จากนั้นหาช่องใส่แบตเตอรี่ที่ด้านล่างของแล็ปท็อป ขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อป คุณอาจจำเป็นต้องถอดแผงออกหรือคลายน็อตบางตัวเพื่อดูแบตเตอรี่ นำแบตเตอรี่เก่าออกด้วยความระมัดระวังและใส่อันใหม่ที่เข้ากันกับรุ่นของแล็ปท็อปของคุณ ตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้ใส่แบตเตอรี่อย่างถูกต้องและยึดให้เข้าที่

ส่วนที่ 3: เคล็ดลับเพิ่มเติม: กู้คืนไฟล์ที่สูญหาย/ถูกลบจากแล็ปท็อปด้วย Recoverit

บางครั้ง ในขณะที่ทำการแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่ของแล็ปท็อป คุณอาจสูญเสียข้อมูลสำคัญของคุณ ในกรณีนี้ คุณสามารถขอความช่วยเหลือจาก Recoverit ซึ่งเป็นเครื่องมือกู้คืนข้อมูลที่เชี่ยวชาญที่สามารถใช้กับระบบ Windows ชั้นนำได้ หากใช้มันคุณจะสามารถกู้คืนไฟล์ของคุณที่สูญหายจากสถานการณ์ต่าง ๆ และจากแหล่งต่าง ๆ ได้ มันช่วยให้คุณกู้คืนรูปภาพ, วิดีโอ, ไฟล์เสียง, เอกสาร, และอื่น ๆ อีกมากมาย นี่คือวิธีใช้ Recoverit Computer Data Recovery เพื่อ กู้คืนไฟล์ที่สูญหาย, ถูกลบ, หรือไม่สามารถเข้าถึงได้จากแล็ปท็อปของคุณ

การกู้คืนข้อมูลด้วย Recoverit - มันคือซอฟต์แวร์ที่กู้คืนข้อมูลที่ดีที่สุด

• กู้คืนไฟล์ที่ถูกทำลายจากคอมพิวเตอร์, ฮาร์ดไดรฟ์ USB, และการ์ดความจำอย่างมีประสิทธิภาพ, ปลอดภัยและสมบูรณ์แบบ
• รองรับการกู้คืนไฟล์ที่ถูกทำลายและสูญหายเนื่องจากติดไวรัส, โปรแกรมเสียหาย, หรือคอมพิวเตอร์ไม่ทำงาน
• กู้คืนได้ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลหรือไฟล์ประเภทใดก็ตามด้วยอัตราสำเร็จสูงและคุณภาพที่ดีดังเดิม
• ระบบปฏิบัติการที่รองรับ: Windows 11 / 10 / 8 / 7 / XP / Vista และ Mac OS X 10.10 หรือใหม่กว่า

ดาวน์โหลดฟรี | Winดาวน์โหลดฟรี | Mac

ขั้นตอนที่ 1 เลือกตำแหน่งเพื่อสแกน

ลำดับแรก ให้เรียกใช้งาน Recoverit Data Recovery บนคอมพิวเตอร์และเลือกตำแหน่งที่ต้องการแสกน ไม่ว่าจะเป็นพาร์ทิชั่น, โฟลเดอร์, หรือทั้งไดรฟ์

ขั้นตอนที่ 2: รอให้การแสกนเสร็จสิ้น

เมื่อคุณคลิกที่ปุ่ม Start แอปพลิเคชั่นจะพยายามกู้คืนข้อมูลของคุณ คุณสามารถรอหรือดูการดำเนินการจากหน้าจอหรือหยุดการดำเนินการในระหว่างนี้ได้

ขั้นตอนที่ 3: กู้คืนข้อมูลของคุณ

หลังจากการดำเนินการเสร็จสิ้น แอปพลิเคชั่นจะแสดงรายการข้อมูลที่กู้มาในหมวดหมู่ต่าง ๆ คุณสามารถใช้การกรองเพื่อตรวจสอบไฟล์ที่ต้องการกู้คืนและยังสามารถดูตัวอย่างได้ด้วย เพียงแค่เลือกข้อมูลที่ต้องการแล้วคลิกปุ่ม Recover เพื่อบันทึก

เรามั่นใจว่าหลังจากอ่านคำแนะนำนี้ คุณจะสามารถแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่ของ Asus, Acer, Lenovo, Dell, หรือ HP ได้ เพื่อทำให้มันง่ายขึ้นสำหรับคุณ เราได้ระบุวิธีแก้ไขแบตเตอรี่ของแล็ปท็อปหมดเร็วทั้งหมดที่สามารถใช้ได้เกือบทุกระบบ อย่างไรก็ตามหากข้อมูลของคุณสูญหายระหว่างการแก้ไข คุณสามารถกู้คืนได้โดยใช้ Recoverit Data Recovery มีอัตราการกู้คืนข้อมูลที่สูงที่สุด และมันยังทำให้คุณกู้คืนข้อมูลทุกประเภทได้โดยปราศจากความยุ่งยากใด ๆ