วิธีใช้ PowerShell เพื่อบังคับลบไฟล์และโฟลเดอร์

Dea N.

Jun 12, 2024 • Filed to: Recover Files

ฝันร้ายของใครหลายๆคนในโลกนี้ก็คงเป็นการที่ข้อมูลของพวกเขาหายไป เมื่อเราพูดถึงข้อมูล นั่นก็หมายถึงข้อมูลที่สำคัญทั้งหมดรวมถึงรูปภาพเซลฟี่, วิดีโอ, บันทึก, เอกสาร, รูปภาพ, เพลง และอื่นๆอีกมากมายของคุณ ดังนั้นในบทความนี้ เราจะแนะนำวิธีการต่างๆสำหรับ กู้คืนไฟล์ PowerShell ที่ถูกลบ ในบทความนี้ เราได้อธิบายขั้นตอนที่ละขั้นเกี่ยวกับวิธีที่คุณสามารถใช้ PowerShell เพื่อกู้คืนไฟล์ที่ถูกลบไป และบทความนี้จะอธิบายหัวข้อเช่น 'PowerShell คืออะไร?' และวิธีที่เราจะสามารถใช้ Powershell เพื่อบังคับลบโฟลเดอร์ได้

ตอนที่ 1: PowerShell คืออะไร?

Powershell จาก Windows เป็นภาษาสคริปต์และการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุแบบอัตโนมัติ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมดูแลระบบโดยเฉพาะ และ Powershell เพื่อกู้คืนไฟล์ที่ถูกลบไป และทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT สามารถควบคุมและทำให้การดูแลดำเนินด้วยระบบอัตโนมัติทั้งสำหรับ Windows OS และการใช้งานอื่นๆ

โปรแกรมนี้ยังเสนอแนวคิดใหม่ๆที่ทำให้คุณสามารถเพิ่มความรู้ที่คุณได้มาและสคริปต์ที่คุณได้สร้างในพร้อมพ์คำสั่งของ Windows และ Windows Script Host

ซึ่งผสมผสานระหว่างความยืดหยุ่นความเร็วของคำสั่ง, การเขียนสคริปต์ และพลังของเครื่องมือสำหรับผู้ดูแลในระบบ GUI จึงทำให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการพัฒนาระบบการควบคุมดูแลเพื่อลดจำนวนชั่วโมงที่จะต้องทำงานด้วยตัวเอง เราจะอธิบายถึงแง่มุมที่สำคัญต่างๆที่คุณควรเรียนรู้เกี่ยวกับ Powershell

ตอนที่ 2: วิธีในการบังคับลบไฟล์และโฟลเดอร์ด้วย Powershell ทำอย่างไร?

มาเริ่มต้นด้วยการใช้คำสั่งง่ายๆเพื่อลบโฟลเดอร์หรือไฟล์เดียวกันดีกว่า โปรดจำไว้เสมอว่าคุณลงชื่อเข้าใช้ในเซิร์ฟเวอร์ หรือ PC ด้วยบัญชีที่สามารถเข้าถึงสิ่งที่คุณอยากจะลบได้

• เปิด PowerShell ด้วยการกดปุ่ม Start และพิมพ์ว่า PowerShell แล้วกด Enter
• พิมพ์ Remove-Item –path c:\testfolder –recurse และกด Enter โปรดแทนที่ c:\testfolder ด้วยที่อยู่ไฟล์แบบเต็มที่คุณต้องการจะลบ

• พารามิเตอร์ –recurse จะเปิดใช้งาน Powershell เพื่อนำไอเท็มในระบบลูกใดๆก็ตามออกโดยที่ไม่ต้องขออนุญาต ยิ่งไปกว่านั้น พารามิเตอร์ –force สามารถเขียนเพิ่มเข้าไปได้เพื่อลบไฟล์สำหรับอ่านเท่านั้นหรือไฟล์ที่ซ่อนอยู่
• เพื่อให้มั่นใจว่าโฟลเดอร์นั้นถูกลบไปแล้วจริงๆ ให้พิมพ์ dir c: ในพร้อมพ์คำสั่งและกด Enter และแทนที่ c: ด้วยแหล่งที่ใช้เก็บข้อมูลระบบแม่ของโฟลเดอร์ที่คุณเพิ่งจะลบไป

ตอนที่ 3: วิธีในการลบหลายๆไฟล์ด้วย Powershell

การลบไฟล์ต่างๆด้วย Powershell นั้นไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อนอะไร คุณเพียงแค่ต้องรู้คำสั่งที่ถูกต้องในการดำเนินการเท่านั้นเอง แต่เมื่อพูดถึงการลบไฟล์หลายๆไฟล์ทีเดียวแล้ว มันก็อาจจะซับซ้อนอยู่บ้างเล็กน้อย ไม่ต้องคิดมากไป เพื่อความสะดวกของคุณ เราได้เตรียมคำสั่งที่คุณต้องใช้มาไว้ด้านล่างนี้แล้ว

• Remove-item file-path, file-path1, file-path2

"Remove-item" เป็นคำสั่งที่จำเป็นในการบอก Powershell ว่าไฟล์นั้นๆจะต้องถูกลบ/นำออก และ “file-path”, “file-path1”, “file-path2” ก็คือที่อยู่ไฟล์แบบเต็มของไฟล์ที่จะต้องถูกลบ นี่คือตัวอย่างสาธิตทีละขั้นตอนสำหรับคุณ
ขั้นที่ 1: เปิดใช้งานแอปฟลิเคชั่น Powershell ด้วยการคลิกขวาที่ "Start Menu" แล้วจึงเลือก “Windows PowerShell (Admin)”
ขั้นที่ 2: เมื่อหน้าต่าง Powershell ของคุณปรากฏบนหน้าจอแล้ว ให้ใช้คำสั่งข้างต้น ตัวอย่างเช่น เรามีไฟล์ที่ชื่อ TWC และ TWC1 บนเดสก์ท็อปและดาวน์โหลดตามลำดับ ดังนั้นคำสั่งที่ต้องใช้ก็คือ:

• Remove-item C:\Users\user-name\Desktop\TWC.png, C:\Users\user-name\Downloads\TWC1.txt

ตอนที่ 4: วิธีการลบหลายๆโฟลเดอร์ด้วย Powershell

เช่นเดียวกัน เมื่อลบหลายๆโฟลเดอร์ คำสั่งก็จะต้องใช้ในลักษณะเดียวกัน นี่คือตัวอย่างสำหรับคุณ
ขั้นที่ 1: เปิดแอพลิเคชั่น PowerShell ด้วยการคลิกขวาที่ “Start Menu” แล้วจึงเลือก “Windows PowerShell (Admin)”
ขั้นที่ 2: ทันทีที่หน้าต่าง Powershell โหลดขึ้นมาบนหน้าจอ คุณจะต้องใช้คำสั่งต่อไปนี้ เพียงแค่แทนที่ที่อยู่ไฟล์ตัวอย่างด้วยที่อยู่ของโฟลเดอร์ที่คุณต้องการลบบน PC ยกตัวอย่างเช่น เรามีโฟลเดอร์ที่ชื่อว่า TWC บนเดสก์ท็อปและ TWC1 ในดาวน์โหลด ดังนั้นคำสั่งที่ต้องใช้ก็คือ:

• Remove-item C:\Users\user-name\Desktop\TWC, C:\Users\user-name\Downloads\TWC1

ข้อควรระวัง: โปรดจำเอาไว้ว่าเมื่อคุณใช้ Powershell เพื่อลบ/นำออกไฟล์หรือโฟลเดอร์ พวกมันจะไม่เข้าไปอยู่ใน Recycle Bin แต่จะถูกลบอย่างถาวรแทน
หมายเหตุ: ในกรณีที่คุณอยากจะดูตัวอย่างเพิ่มเติม คุณสามารถเยี่ยมชมได้ที่ลิงก์ Microsoft นี้ (https://docs.microsoft.com/en-us/powershell/module/microsoft.powershell.management/remove-item?view=powershell-7) ซึ่งมีตัวอย่าง PowerShell ที่แตกต่างกันออกไปให้คุณดู

วิดีโอสาธิต: วิธีลบไฟล์และโฟลเดอร์ใน Windows ด้วย Powershell

วิดีโอล่าสุด จาก Recoverit

ดูเพิ่มเติม >

ตอนที่ 5: วิธีในการกู้คืนไฟล์ที่ถูกลบด้วย Powershell ทำอย่างไร?

การสูญเสียข้อมูลเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับพวกเราแทบทุกคน การกู้คืนข้อมูลจาก Recoverit สำหรับ PC สามารถกู้คืนข้อมูลได้มากกว่า 1000 ประเภทในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลต่างๆ รวมถึงฮาร์ดไดรฟ์คอมพิวเตอร์ระบบ Windows, เดสก์ท็อป, Recycle Bin, อุปกรณ์พกพา และคอมพิวเตอร์ที่พังของคุณ และยังมีคุณสมบัติพิเศษเช่นการกู้คืนวิดีโอระดับแอดวานซ์เพื่อเอาวิดีโอที่หายไปกลับคืนมา แอปพลิเคชั่นนี้ยังมีเครื่องมือซ่อมแซมวิดีโอที่สามารถวซ่อมแซมวิดีที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์ต่างๆได้

ขั้นที่ 1: เปิด Recoverit บน Windows

อย่างแรกให้เปิด Recoverit บนคอมพิวเตอร์ของคุณ คลิกสองครั้งที่ไอค่อน "Wondershare Recoverit" บนเดสก์ท็อปเพื่อเปิดหลังจาดติดตั้งเรียบร้อยแล้ว

ขั้นที่ 2: เลือกตำแหน่ง

เลือกตำแหน่งที่ข้อมูลถูกลบไป ต่อไปคลิกที่ "Start"

ขั้นที่ 3: แสกนตำแหน่งต่างๆ

โปรแกรมจะเริ่มแสกนอย่างทั่วถึง ในระหว่างที่แสกน คุณสามารถเลือกไฟล์ของคุณหรือหยุดการแสกนตามแต่ที่คุณสะดวก

ขั้นที่ 4: ดูตัวอย่างและกู้คืนไฟล์

เมื่อไฟล์ต่างๆของคุณถูกแสกนเรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถดูตัวอย่างไฟล์ก่อนกู้คืนได้ คุณสามารถเลือกไฟล์ที่ต้องการและคลิกปุ่ม "Recover" เพื่อนำไฟล์ของคุณกลับคืนมา

ดูตัวอย่างข้อมูลด้วยการคลิกที่ไฟล์ รูปภาพตัวอย่างจะปรากฏขึ้นที่แผงด้านขวา คุณจะเห็นหน้าต่างตัวอย่างหลังจากคลิกปุ่ม "Preview" หรือคลิกสองครั้งที่ไฟล์

นอกจากนี้ เมื่อคุณคลิกที่ไฟล์ คุณจะสามารถเห็นข้อมูลบางส่วนของไฟล์ได้ ประกอบไปด้วยที่อยู่ของไฟล์, ขนาดไฟล์ และวันที่แก้ไข

Recoverit จะทำให้คุณสามารถดูตัวอย่างสำหรับรูปภาพต่างๆได้ในอินเทอร์เฟซ และคุณยังสามารถดูตัวอย่างแบบเต็มหน้าจอในขณะที่ซูมออก หรือหมุน, เต็มหน้าจอ, ซูมเช้า

Recoverit รองรับการดูตัวอย่างของไฟล์ทั่วไปเกือบทั้งหมด รวมถึงอีเมล Outlook, เอกสาร, รูปภาพ, วิดีโอ, ไฟล์เสียง และอื่นๆอีกมากมาย

ผลลัพธ์

การสูญเสียข้อมูลถือเป็นฝันร้ายของพวกเราแทบทุกคน ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหานี้ พวกเราจึงได้อธิบายวิธีในการใช้ Powershell เพื่อกู้คืนไฟล์ที่ถูกลบไป และเรายังได้แนะนำ Powershell และกระบวนการทำงานให้คุณได้รู้เพิ่มเติม อีกอย่างถ้าคุณเหลืออดกับไฟล์และโฟลเดอร์ต่างๆที่ไม่สามารถลบได้อย่างง่ายๆ คุณก็สามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้ด้วย Powershell ในบทความนี้ คุณจะได้เห็นภาพของวิธีที่คุณจะสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ชัดเจนขึ้น