Wondershare Recoverit

การกู้คืนไฟล์

  • โปรแกรมกู้คืนข้อมูลที่หายไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย
  • รองรับการกู้คืนข้อมูลมากกว่า 500 รูปแบบรวมถึงคอมพิวเตอร์พัง พาร์ติชั่นเสียหาย หรือแม้กระทั่งเผลอลบข้อมูลออกจากคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
  • รองรับการกู้คืนไฟล์กว่า 1,000 รูปแบบพร้อมกับการกู้คืนที่มีคุณภาพสูงสุด
ดาวน์โหลดฟรี ดาวน์โหลดฟรี ดาวน์โหลดฟรี เรียนรู้เพิ่มเติม >
การกู้คืนไฟล์

10 วิธีแก้ไขที่ได้ผล |ฮาร์ดไดรฟ์เต็มแต่ไม่มีไฟล์ใน Windows 10

Wondershare Recoverit Authors

Jun 12, 2024 • Filed to: Windows Computer Solutions

ในเดสก์ท็อปมันโชว์ว่าไดรฟ์ C เกือนจะเต็มน่ะครับ (500Gig) ผมก็ลองเปิดดูเพระาคิดว่าต้องมีโปรแกรมหรือไฟล์หนัง หรือข้อมูลอะไรบางอย่างที่กินพื้นที่ แต่ก็ไม่มีเลย ไม่มีทั้งหนัง, เพลง หรือแม้แต่รูปภาพ ไม่มีไฟล์อะไรใหญ่ๆ นอกจาก Windows 10, Office และอื่นๆ
ผมก็ตรวจเช็คไฟล์โปรแกรม, ไฟล์ขยะ (ก็ไม่มี), Windows แล้วก็ Downloads แล้วด้วย ไม่มีอะไรที่ใหญ่เป็นพิเศษหรืออยู่ผิดที่เลย ตอนที่ผมเช็ครายละเอียดของไฟล์ ทุกอย่างก็อยู่ในระดับ kb หรือ MB ที่ต่ำ
นี่ผมพลาดอะไรไปหรือเปล่า?

ในขณะที่ใช้คอมพิวเตอร์/แล็ปท็อป บางครั้งก็เป็นไปได้ว่า ไดรฟ์ D ของคุณเต็มแต่ไม่มีไฟล์ใน Windows 10 ซึ่งกินพื้นที่ของคุณบนไดรฟ์ไปทั้งหมดโดยที่คุณไม่สามารถตรวจสอบได้ คุณจึงไม่สามารถหาไฟล์ที่ใช้การได้เจอเลยแม้แต่ไฟล์เดียว ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากหลายสาเหตุ อย่างเช่นไวรัสหรือมัลแวร์ หรือการที่คุณเผลดบันทึกไฟล์/โฟลเดอร์ที่มีขนาดใหญ่ไว้ที่ไดรฟ์ C สาเหตุอื่นๆก็อาจทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้เช่นกัน บทความนี้จะช่วยอธิบายรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว

ตอนที่ 1: ทำไมใน Windows 10 ฮาร์ดไดรฟ์เต็มแต่ไม่มีไฟล์?

ฮาร์ดดิสก์เต็มแต่ไม่มีไฟล์ใน Windows 10 อย่างนั้นเหรอ? สาเหตุที่เป็นไปได้อาจมีดังนี้:

บทความนี้จะช่วยอธิบายสาเหตุต่างๆอย่างละเอียดและเสนอวิธีในการแก้ไขให้กับปัญหาดังกล่าว

ตอนที่ 2: ภาพรวมของปัญหาฮาร์ดไดรฟ์เต็มอย่างไม่ทราบสาเหตุ

เมื่อระบบของคุณ ฮาร์ดดิสก์เต็มแต่ไม่มีไฟล์ ใน Windows 10 เรื่อยๆ คุณอาจจะกำลังเจอปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นเนื่องด้วยพื้นที่ในพื้นที่จัดเก็บน้อยเกินกว่าจะบันทึกข้อมูลใหม่ได้ อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ปัญหาอาจเกิดขึ้นเนื่องจากไวรัสหรือมัลแวร์ซึ่งหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่จัดเก็บและสร้างไฟล์และโฟลเดอร์ที่ใช้พื้นที่ในไดรฟ์ D นั่นหมายความว่าเมื่อไดรฟ์เต็ม อุปกรณ์ก็จะแสดงว่าไดรฟ์ C เต็มด้วยเช่นกัน และนี่คือลักษณะที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ในกรณีที่ฮาร์ดไดรฟ์เต็ม

  1. อุปกรณ์จะทำงานได้ช้าลง อุปกรณ์อาจค้างในระหว่างที่เปิดโปรแกรมหรืองานต่างๆ
  2. ไม่มีพื้นที่จัดเก็บสำหรับข้อมูลใหม่ ไดรฟ์ C จะแจ้งเตือนข้อความพื้นที่จัดเก็บเต็มอย่างต่อเนื่อง
  3. กระบวนการอื่นๆ เช่น การอัปเดต/อัปเกรดซอฟต์แวร์, ติดตั้งโปรแกรม จะหยุดลงและคุณจะไม่สามารถดำเนินการได้

recoverit-file-recovery


ตอนที่ 3: วิธีแก้ไขสำหรับปัญหาฮาร์ดไดรฟ์เต็มแต่ไม่มีไฟล์ใน Windows 10

เมื่อคุณรู้ว่าไดรฟ์ของคุณแจ้งเตือนข้อความทำนองว่า ฮาร์ดดิสก์เต็มแต่ไม่มีไฟล์ ใน Windows 10 แต่คุณหาไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่สามารถลบเพื่อสร้างพื้นที่ว่างได้ไม่เจอเลย ในกรณีนี้ วิธีเหล่านี้อาจช่วยแก้ปัญหา ฮาร์ดไดรฟ์เต็มแต่ไม่มีไฟล์ ใน Windows 10 ได้

วิดีโอสาธิต: จะแก้ไขปัญหาฮาร์ดดิสก์เต็มแต่ไม่มีไฟล์ใน Woindows 10 ได้อย่างไร?

ไอคอน - 1

วิดีโอล่าสุด จาก Recoverit

ดูเพิ่มเติม >

วิธีที่ 1. ตรวจสอบปัญหาเกี่ยวกับไวรัส

เมื่อเกิดปัญหาว่าเหลือพื้นที่ในดิสก์น้อยแต่ไม่มีอะไรให้ลบ ขั้นตอนแรกที่คุณควรจะทำก็คือหาต้นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานั้น และควรที่จะใช้วิธีที่เหมาะสมเท่านั้นในการแก้ปัญหา และแน่นอนผู้ต้องสงสัยแรกของเราก็คือไวรัสและมัลแวร์ คุณอาจได้รับไวรัสมาจากการดาวน์โหลดข้อมูลหรือจากเว็บไซต์ที่คุณใส่ไอดีเมลเพื่อทำการยืนยันตัวตน หากไวรัสหรือมัลแวร์เป็นสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น คุณก็สามารถใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสที่มีประสิทธิภาพและทำการแสกนดิสก์อย่างละเอียดเพื่อกำลัดไฟล์ต่างๆที่ถูกไวรัสสร้างขึ้น หลังจากแสกน ให้กดกำจัดทั้งหมด และพื้นที่จัดเก้บของคุณก็จะกลายเป็นอิสระ

วิธีที่ 2. ตรวจสอบปัญหาเกี่ยวกับดิสก์

หากมีปัญหาทางเทคนิคหรือตรรกะของระบบ การใช้ CHKDSK ก็เป็นทางออกที่ดีที่สุด ข้อผิดพลาดของระบบเหล่านี้อาจทำให้การทำงานของฮาร์ดไดรฟ์ผิดปกติหรืออาจแสดงพื้นที่ของดิสก์ผิดพลาด ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. กดคีย์ Windows + R พร้อมกัน หน้าต่างข้อความ Run จะปรากฎขึ้นบนหน้าจอ พิมพ์ cmd ในช่องและคลิก Ok เพื่อดำเนินการต่อ

ตรวจสอบปัญหากี่ยวกับดิสก์

  1. ในพร้อมท์คำสั่งต่อไปของ Windows พิ้ม chkdsk [ตัวอักษรไดรฟ์]: /f /r /x ในจุดนี้ F เป็นตัวแทนของตัวอักษรของพาร์ทิชั่นซึ่งจะถูกแก้ไข chkdsk /f จะแสดงความคืบหน้าในการแสกนไดรฟ์, chkdsk /r จะหาส่วนที่เกิดปัญหาและกู้คืนข้อมูล และ chkdsk /x เกี่ยวกับการบังคับดำเนินการกับวอลลุ่มดังกล่าว

วิธีที่ 3. แสดงไฟล์และโฟลเดอร์ที่ถูกซ่อน

บางครั้ง พื้นที่ในดิสก์ก็ถูกใช้งานไปกับไฟล์และโฟลเดอร์ที่ถูกซ่อนเอาไว้ ซึ่งอาจทำให้คุณต้องเผชิญกับปัญหา ฮาร์ดดิสก์เต็มแต่ไม่มีไฟล์ ใน Windows 10 ในกรณีนี้ ให้ทำการเลิกซ่อนไฟล์และโฟลเดอร์เพื่อตรวจสอบว่าใช่สาเหตุนี้หรือไม่ เคล็ดลับมีดังต่อไปนี้:

  1. เปิดแผงควบคุมและเลือกตัวเลือก File Explorer ต่อด้วยตัวเลือก View
  2. จากนั้นเลือกติ๊กช่อง อย่างเช่น แสดงไฟล์, โฟลเดอร์ และไดรฟ์ต่างๆที่ถูกซ่อนไว้

แสดงไฟล์ต่างๆที่ถูกซ่อน

คุณอาจสนใจเกี่ยวกับ วิธีแสดงไฟล์ที่ถูกซ่อนไว้ใน SD การ์ด ด้วยเช่นกัน
  1. กลับไปที่ไดรฟ์ที่คุณต้องการตรวจสอบและดูว่าพื้นที่ว่างหรือไม่ และคุณสามารถลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นได้

วิธีที่ 4. ลบจุดคืนค่าของระบบและลดการใช้งานของดิสก์

ในกรณีที่มีการคืนค่าระบบบ่อยครั้ง คุณอาจสร้างไฟล์สำรองข้อมูลขนาดใหญ่ขึ้นมา ซึ่งกินพื้นที่บนฮาร์ดไดรฟ์เป็นอย่างมาก ในการแก้ปัญหานี้ คุณจะต้องเปลี่ยนระยะรอบในโปรแกรมสำรองและคืนค่าของ Windows คุณสามารถลบไฟล์สำรองข้อมูลที่ไม่สำคัญได้เช่นกัน

  1. เปิดแผงควบคุมและเลือกตัวเลือกการตั้งค่า
  2. ในเมนูการตั้งค่า ให้เลือกตัวเลือก System Protection ตามด้วยเลือก Configure
  3. ให้ตัวเลือกเปิด System Protection ดำเนินการต่อไป

การกู้คืนและคืนค่า windows

  1. ในหมวดการใช้พื้นที่ดิสก์ คุณสามารถปรับพื้นที่ของดิสก์ที่สำหรับบันทึกการสำรองข้อมูลประจำวันได้ ลากเพื่อปรับ เปอร์เซ็นที่แนะนำอยู่ที่ 3-6%
  2. จากนั้นคลิกตัวเลือกสำหรับลบจุดคืนค่าสำหรับอุปกรณ์ทิ้ง คลิก Ok เพื่อดำเนินการต่อ

วิธีที่ 5. ซ่อนพาร์ทิชั่นสำหรับกู้คืนด้วยการนำตัวอักษร Drive ออก

เพื่อแก้ปัญหา ฮาร์ดไดรฟ์เต็มแต่ไม่มีไฟล์ หนึ่งในทางออกทีได้ผลก็คือการซ่อนพาร์ทิชั่นการกู้คืนด้วยการนำตัวอักษร Drive ออก ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. เปิดกล่องคำสั่งด้วยการกดคีย์ Windows + R keys และพิมพ์ cmd คลิก ok เพื่อดำเนินการต่อ

ซ่อนพาร์ทิชั่นสำหรับกู้คืน

  1. ในพร้อมพ์คำสั่งถัดไป ให้คำสั่งและกด Enter จากนั้นเปลี่ยนตัวอักษร Drive เป็นตัวใหม่ เมื่อเรียบร้อยแล้ว จึงปิดกล่องคำสั่ง

บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง: วิธีสร้างพาร์ทิชั่นสำหรับกู้คืนใน Windows 11

วิธีที่ 6. เคลียร์ไฟล์ขยะและไฟล์ที่มีขนาดใหญ่อย่างปลอดภัย

หากตรวจพบในไดรฟ์ ไฟล์ขยะก็ควรที่จะถูกกำจัดออกเพื่อสร้างพื้นที่ว่าง สำหรับกรณีนี้คุณสามารถใช้โปรแกรมจากภายนอกหรือใช้กระบวนการทำความสะอาดที่มาพร้อมกับดิสก์ก็ได้

  1. ในเมนู Windows ให้เลือกตัวเลือก Accessories และเครื่องมือของระบบ
  2. ในเมนูเครื่องมือของระบบ เลือกกระบวนการทำความสะอาดดิสก์

ทำความสะอาดไฟล์ขยะ

  1. ในกระบวนการทำความสะอาดดิสก์ เลือกไฟล์ที่คุณต้องการลบและคลิกลบไฟล์เพื่อดำเนินการจนเสร็จสมบูรณ์

กระบวนการทำความละอาดดิสก์

วิธีที่ 7 ลบไฟล์ขยะชั่วคราว

บางครั้ง เราก็จำเป็นต้องลบไฟล์ขยะชั่วคราวเพื่อสร้างพื้นที่ว่างในหน่วยความจำ ไฟล์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว เช่น ไฟล์ติดตั้ง Windows, อัปเกรด Log, ใช้แคช และอื่นๆก็กินพื้นที่จำนวนมากในไดรฟ์ การลบไฟล์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างได้ และนี่คือวิธีที่คุณสามารถทำได้

  1. เปิดพร้อมพ์คำสั่งด้วยการกดคีย์ Windows + R ในช่อง ให้พิมพ์ prefetch และคลิก Continue

เปิดพร้อมพ์คำสั่ง

  1. ในหน้าต่างพร้อมพ์คำสั่งถัดไป เลือกไฟล์ขยะชั่วคราวทั้งหมดเพื่อลบ กด Ctrl + A เพื่อเลือกทั้งหมด

เลือกไฟล์ขยะชั่วคราว

  1. เมื่อเลือกเรียบร้อยแล้ว ใน Run Box ต่อมาให้พิมพ์ %temp% และกด Enter เพื่อดำเนินการต่อ

พิมพ์ temp

  1. ทำกระบวนการที่รุบะไว้ในขั้นตอนที่ 2 ซ้ำ

เลือกไฟล์ขยะชั่วคราวอีกครั้ง

  1. จากนั้นพิมพ์ recently ใน Run Box และคลิก Ok เพื่อดำเนินการต่อ

พิมพ์ recently

  1. ทำตามขั้นตอนที่ 2 อีกครั้ง แล้วจึงกด Delete เพื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ

เลือกไฟล์ขยะชั่วคราว

วิธีที่ 8. ลบการอัปเดต Windows ที่ไม่ต้องการ

การอัปเดตของ Window ใช้พื้นที่ความจำจำนวนมากบนไดรฟ์ ดังนั้นเราขอแนะนำให้ลบอัปเดต Windows ที่คุณไม่ต้องการเพื่อแก้ปัญหา ฮาร์ดดิสก์เต็มแต่ไม่มีไฟล์ ใน Windows 10 ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. คลิกที่ไดรฟ์ C ในเมนู และเลือกตัวเลือก Software Distribution ต่อด้วยการเลือกตัวเลือก Dowmload
  2. เลือกไฟล์ทั้งหมดและลบออก

วิธีที่ 9. ล้าง Recycle Bin ของ Windows

การลบไฟล์และโฟลเดอร์จากไดรฟ์นั้นอาจไม่เพียงพอ และอาจสร้างภาระให้กับ Recycle Bin ได้ ซึ่งอาจทำให้ใช้พื้นที่ในอุปกรณ์เยอะ ล้าง Recycle Bin และทำให้พื้นที่กลับมาว่างอีกครั้ง

  1. เปิด Recycle Bin จากเมนูหลัก
  2. จากนั้นก็เลือกตัวเลือก Empty Recycle Bin

ล้าง recycle bin

  1. กระบวนการลบจะเริ่มต้นขึ้นและคุณก็สามารถดูความคืบหน้าได้ เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว พื้นที่ที่ถูกใช้งานจะกลับมาเป็นอิสระ

ความคืบหน้าในกาารล้าง recycle bin

วิธีที่ 10. เปลี่ยนไดรฟ์

หากวิธีแก้ปัญหาข้างต้นไม่ได้ผลในการสร้างพื้นที่ว่างเพื่อแก้ปัญหา ฮาร์ดไดรฟ์เต็มแต่ไม่มีไฟล์ โดยเฉพาะไดรฟ์ D ใน Windows 10 คุณก็อาจจะต้องเปลี่ยนฮาร์ดไดรฟ์ ซึ่งอาจเป็นหนทางเดียวที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่จัดเก็บ

เคล็ดลับพิเศษ: จะกู้คืนไฟล์ที่หายไปจากฮาร์ดไดรฟ์ได้อย่างไร?

หลังจากแก้ไขปัญหา ฮาร์ดไดรฟ์เต็มแต่ไม่มีไฟล์ แล้ว คุณอาจต้องการซอฟต์แวร์กู้คืนข้อมูลจากฮาร์ดไดรฟ์เพื่อกู้คืนข้อมูลที่หายไป ซอฟต์แวร์กู้คืนข้อมูลจาก Recoverit เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณ นอกจากจะสามารถกู้คืนไฟล์จากฮาร์ดไดรฟ์แล้ว ซอฟต์แวร์นี้ยังสามารถกู้คืนข้อมูลจาก SD การ์ด, แฟลชไดรฟ์, เซิร์ฟเวอร์ NAS&Linux และอื่นๆอีกมากมาย หากคุณสูญเสียข้อมูลใดไประหว่างแก้ปัญหา ฮาร์ดไดรฟ์เต็มแต่ไม่มีไฟล์ ไม่ต้องกังวลไป เพียงทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อนำข้อมูลของคุณกลับมาอย่างสวัสดิภาพ

กู้คืนข้อมูลที่ถูกลบไปแล้ว

การกู้คืนข้อมูลด้วย Recoverit - มันคือซอฟต์แวร์ที่กู้คืนข้อมูลที่ดีที่สุด

  • กู้คืนไฟล์ที่เสียหายจากคอมพิวเตอร์, ฮาร์ดไดรฟ์ USB, เมมโมรี่การ์ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ, ปลอดภัย และครบถ้วน
  • รองรับการซ่อมแซมไฟล์ที่เสียหายและสูญหายเนื่องจากไวรัส, โปรแกรมล่ม หรือคอมพิวเตอร์ดับ
  • กู้คืนข้อมูลหรือไฟล์ประเภทใดก็ได้ ด้วยอัตราสำเร็จสูงและคุณภาพที่ดีดังเดิม
  • รองรับ OS: Windows 11/10/8/7/XP/Vista และ Mac OS X 10.10 - macOS 13 (Ventura)

ขั้นตอนที่ 1 ดาวน์โหลดและติดตั้ง

อย่างแรก ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ และติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของคุณ

เลือกไดรฟ์

ขั้นตอนที่ 2. การแสกนฮาร์ดไดรฟ์

เปิด Recoverit และไปที่หมวด Hard Drives และ Locations เลือกไดรฟ์ที่ข้อมูลของคุณหายไปและคลิก Scan เพื่อเริ่มการแสกนไฟล์

เริ่มการแสกนฮาร์ดไดรฟ์

ขั้นตอนที่ 3 ดูตัวอย่างและบันทึก

เมื่อกระบวนการแสกนเสร็จสิ้นแล้ว คุณสามารถดูตัวอย่างั้ไฟล์เพื่อดูว่าไฟล์ทำงานได้ตามปกติหรือไม่ป จากนั้นคลิก Recover เพื่อดาวน์โหลดและบันทึกไฟล์ลงในเครื่อง

ดูตัวอย่างไฟล์

บทสรุป

ปัญหาที่ว่า ฮาร์ดไดรฟ์เต็มแต่ไม่มีไฟล์ โดยเฉพาะไดรฟ์ D ใน Windows 10 บางครั้งก็เป็นปัญหาทั่วไปที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นจากไวรัสหรือมัลแวร์, ส่วนที่ทำงานผิดพลาด, ข้อผิดพลาดทางเทคนิคของไดรฟ์ที่แสดงพื้นที่ไม่ถูกต้องก็ได้ และแน่นอนว่ามันจะทำให้อุปกรณ์ของคุณทำงานช้าลง คุณจะไม่สามารถบันทึกข้อมูลใหม่ใดๆได้บนอุปกรณ์หรือไม่สามารถทำการอัปเดตอุปกรณ์ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดได้ บทความนี้จะเสนอวิธีแก้ปัญหาให้คุณเพื่อได้ผลในการทำให้หน่วยความจำใช้การได้ สิ่งที่คุณต้องทำก็มีเพียงค้นหาต้นเหตุของปัญหาดังกล่าวและเลือกวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมจากข้างต้นเท่านั้นเอง

Recoverit author

Dea N.

staff Editor

Home > Resources > Windows Computer Solutions > 10 วิธีแก้ไขที่ได้ผล |ฮาร์ดไดรฟ์เต็มแต่ไม่มีไฟล์ใน Windows 10