8 วิธีแก้ไขปัญหารหัสข้อผิดพลาดของ Windows 10 0xc00000e
ถ้าคุณประสบปัญหากับ รหัสข้อผิดพลาด 0xc00000e อาจเป็นเพราะปัจจัยต่าง ๆ อย่าง การกำหนดค่าไดรฟ์ไม่ถูกต้องหรือความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์ มันอาจเกิดจากระบบปฏิบัติการไม่สามารถระบุตำแหน่งบูตได้หรือไฟล์ winload.exe ถูกทำลายและอื่น ๆ
เพื่อจัดการกับปัจจัยเหล่านี้และ แก้ไขรหัสข้อผิดพลาด 0xc00000e คุณต้องปฏิบัตตามวิธีการที่ระบุไว้ในบทความนี้อย่างระมัดระวัง
วิธีแก้ปัญหารหัสข้อผิดพลาด Windows 10 0xc00000e
ด้วยวิธีการต่อไปนี้ คุณสามารถ แก้ไขการกู้คืนรหัสข้อผิดพลาด 0xc00000e และวิธีการที่คุณเลือกใช้จะถูกกำหนดโดยสาเหตุของข้อผิดพลาดบน PC ของคุณ
วิดีโอการสอน: แก้ไขรหัสข้อผิดพลาด 0xc00000e
วิธีที่ 1: ตรวจสอบอุปกรณ์การเชื่อมต่อ
เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบว่ามีอุปกรณ์ภายนอกเชื่อมต่อกับ PC หรือไม่ วิธีนี้สำคัญเพราะหากมีการกำหนดค่า BIOS หรือ UEFI ในลักษณะที่อุปกรณ์เชื่อมต่อภายนอกมีลำดับความสำคัญการบูตสูงกว่าฮาร์ดดิสก์ของคอมพิวเตอร์ มันจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการบูต คอมพิวเตอร์ของคุณจะพยายามบูตในดิสก์ภายนอกแทนที่จะเป็นดิสก์ภายในเครื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้คอมพิวเตอร์ของคุณบูตกลายเป็น รหัสข้อผิดพลาด 0xc00000e
ตัวอย่างของอุปกรณ์เพิ่มเติมที่ทำให้เกิดปัญหาประกอบไปด้วย CDs, Pen Drivers, DVDs, อุปกรณ์เก็บข้อมูล USB อื่นและอีกมากมาย
วิธีที่ 2: สร้างไฟล์ BCD ใหม่
ไฟล์ข้อมูลกำหนดค่าการบูต (BCD) ประกอบไปด้วย ปัจจัยการกำหนดค่าการบูต, ซึ่งจะระบุวิธีการบูตระบบปฏิบัติการ Windows ของคุณ ดังนั้น BCD ที่เสียหายจะทำให้เกิดปัญหากับ PC ของคุณนำไปสู่ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น
เพื่อสร้างไฟล์ BCD ใหม่ คุณจำเป็นต้องสร้างสื่อที่สามารถบูตได้จาก ISO เชื่อมต่อมันกับคอมพิวเตอร์ Windows 10 และทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้:
- เมื่อคอมพิวเตอร์ของคุณบูตจากสื่อที่คุณสร้างขึ้นแล้ว ให้เลือกปุ่ม Next ที่อยู่ด้านล่างขวาของหน้าจอ
- คลิกที่ลิงก์ Repair your computer ที่อยู่ด้านล่างซ้ายของหน้าจอและคุณต้องระวัง อย่าเผลอคลิกปุ่ม Install now ที่อยู่ตรงกลางหน้าจอเพราะมันจะนำคุณไปสู่การติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 ของคุณใหม่
- เลือกเริ่มต้น Troubleshoot จากนั้นเลือกแถบ Command Prompt ที่อยู่ในรายการใต้หน้าต่าง Advanced options
- ดำเนินการต่อโดยเลือกบัญชีที่คุณกำลังใช้งาน
- ใส่รหัสผ่านถ้าคุณได้ตั้งรหัสผ่าน
- แล้วใส่คำสั่งดังนี้: bootrec /rebuildbcd จากนั้นกด Enter
- เมื่อพบการติดตั้งสำหรับ Windows ให้กดปุ่มตัวอักษร Y บนแป้นพิมพ์ จากนั้นจะทำให้สามารถบูตจากรายการและสร้าง BCD ของระบบใหม่ได้
- หลังจากเสร็จเรียบร้อยแล้ว พิมพ์คำสั่งตามที่แนะนำแล้วกด Enter หลังจากจบแต่ละบรรทัด:
bootrec /fixmbr
bootrec /fixboot
วิธีที่ 3: สร้าง BCR Registry Hive ใหม่
วิธีนี้จะซ่อมไฟล์ในส่วนของการบูตและสร้างใหม่อีกครั้ง สร้างสื่อการบูตโดยการใช้เครื่องมือสำหรับการสร้างสื่อ จากนั้นดำเนินการตามนี้:
- สื่อการสามารถใช้ได้ทั้งไดรฟ์ USB หรือ DVD/CD ดังนั้นคุณสามารถต่อมันกับคอมพิวเตอร์ได้เลยหากมันคือไดรฟ์หรือเชื่อมต่อหากมันคือ CD/DVD รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ
- ให้ที่หน้าต่างการตั้งค่า BIOS หรือ Boot meu และรีเซ็ตลำดับการบูตเพื่อจัดลำดับความสำคัญให้สื่อการบูตเป็นอุปกรณ์ในการบูตหลัก เพื่อบูตคคอมพิวเตอร์ให้กดปุ่มใดก็ได้ที่ต้องการ
- กดค้างไว้ระหว่างรอให้ระบบไฟล์โหลดเสร็จสมบูรณ์
- เลือกตามที่คุณต้องการแล้วกด Next
- เลือกตัวเลือก Repair your computer
- จากนั้นเลือกตัวเลือก Troubleshoot
- คลิกที่ Advanced Options
- เรียกใช้งาน Command Prompt จากรายการตัวเลือกและถ้าหากจำเป็นให้เลือกบัญชีผู้ใช้งานของคุณและใส่รหัสผ่านที่ตั้งไว้
- สำหรับช่อง Command Prompt ให้ใส่คำสั่งดังต่อไปนี้แล้วกด Enter หลังจากคำสั่งแต่ละคำสั่ง
bootrec /FixMbr
bootrec /FixBoot
bootrec /ScanOs
bootrec /RebuildBcd
- ออกจากหน้านี้แล้วถอดไดรฟ์และรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ
วิธีที่ 4: ใช้งาน Automatic Repair Utility
Windows เครื่องมือการซ่อมแซมอัตโนมัติภายในเครื่องที่สามารถช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดของ Windows ได้ คุณสามารถเข้าถึงการใช้งานได้จากดิสก์ที่ติดตั้งและแก้ข้อผิดพลาดตามขั้นตอนด้านล่างนี้:
- บูตเครื่องจากดิสก์ที่ติดตั้งของ Windows
- เลือกเวลาที่ถูกต้อง, ภาษา, และการป้อนข้อมูลด้วยแป้นพิมพ์จากนั้นคลิก Next
- เลือกตัวเลือก Troubleshoot หลังจากการคลิก Repair your computer
- แล้วเลือก Advanced options
- คลิกปุ่ม Automatic repair แล้วเลือกระบบปฏิบัติการของคุณ
วิธีที่ 5: รีเซ็ตการกำหนดค่า BIOS/UEFI
รหัสข้อผิดพลาด 0xc00000e สามารถแก้ไขได้โดยการกำหนดค่าของ BIOS/UEFI
- บูตเครื่องของคุณตามปกติและกดปุ่มที่สามารถนำคุณไปที่หน้าต่างการตั้งค่า BIOS คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องมีปุ่มลัดต่างกันสำหรับฟังก์ชั่นนี้ แต่ที่นิยมคือ F2, F12, Esc, Del, อื่น ๆ
- นำทางหน้าจอด้วยปุ่มลูกศรบนแป้นพิมพ์เพื่อหาตัวเลือกเริ่มต้นของการติดตั้ง BIOS เมื่อพบแล้วให้คลิกแล้วกด Enter เพื่อเริ่มต้นการรีเซ็ตหรือกำหนดค่า BIOS
- ใช้ F10 เป็นปุ่มลัด บันทึกการเปลี่ยนแปลงและออกจากหน้าการตั้งค่า BIOS คอมพิวเตอร์ของคุณจะรีสตาร์ทโดยอัตโนมัติ
วิธีที่ 6: ทำเครื่องหมายออนไลน์บน Boot Disk
คุณต้องทำเครื่องหมายออนไลน์ให้กับดิสก์การบูตของคอมพิวเตอร์เพื่อไม่ให้ล้มเหลวในการบูต เชื่อมต่อสื่อการบูต USB กับคอมพิวเตอร์ Windows 10 แล้วทำตามขั้นตอนดังนี้:
- บูตเครื่องจากสื่อการบูตที่ได้เชื่อมต่อ จากนั้นกดเข้า WinRE โดยเลือก Next แล้วเลือก Repair your computer ในสองหน้าจอแรกที่ปรากฎขึ้น
- คลิกที่ Troubleshoot จากหน้านี้ให้เลือกไปที่ Advanced options จากนั้นแตะที่ปุ่ม Command Prompt
- เลือกบัญชีที่กำลังใช้งานแล้วใส่รหัสผ่าน
- ในหน้าต่าง Command Prompt ให้ใส่: diskpart คำสั่งนี้จะเรียกใช้งานยูทิลิตี้ Diskpart หลังจากที่กด Enter ในหน้าต่างปัจจุบัน
- เพื่อดูรายการของพาทิชั่นและดิสก์ทั้งหมดบนเครื่องให้ใส่คำสั่ง list disk หรือ list volume และกด Enter เพื่อดำเนินการ
- คุณจำเป็นต้องเลือกดิสก์หรือพาทิชั่นที่มีระบบปฏิบัติการของคุณ เพื่อดำเนินการนี้ให้เลือกพิมพ์ select disk หรือ select volume แล้วกด Enter
- เพื่อทำเครื่องหมายออนไลน์ที่ดิสก์หรือพาทิชั่นที่เลือกให้พิมพ์คำสั่ง online disk หรือ online volume แล้วกด Enter อีกครั้งเพื่อดำเนินการ
- เพื่อออกจาก diskpart ให้ใส่คำสั่ง exit แล้วกด Enter
วิธีที่ 7: ตรวจสอบรองรับการตั้งค่า Windows 8.1/10 WHQL ใน BIOS
WHQLใน Windows 8.1/10 BIOS มีสองจุดประสงค์หลักคือ เพื่อให้คุณสามารถเปิดใช้งาน UEFI และเพื่อตรวจสอบไดร์เวอร์ที่ได้รับการลงนามในระหว่างการบูต ถ้าหากไม่ได้เปิดใช้งาน WHQL ในระบบของคุณ คุณจำเป็นต้องเปิดมัน สิ่งนี้จะทำให้คุณมั่นใจว่าคอมพิวเตอร์บูตได้อย่างราบรื่น เนื่องจาก WHQL ที่ถูกปิดการใช้งานอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณเกิด รหัสข้อผิดพลาด 0xc00000e ไปที่การตั้งค่า BIOS ตามที่แนะนำไปในวิธีการที่ 5 และตัวสอบ
วิธีที่ 8: กู้คืนข้อมูลของคุณและติดตั้ง Windows ใหม่
หากทั้งหมดที่กล่าวมาไม่ได้ผล คุณอาจจะต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่ โปรดทราบว่าการติดตั้ง Windows ใหม่จะล้างข้อมูลทุกอย่างออกไป สิ่งนี้จึงต้องมีตัวช่วยในการป้องกันข้อมูลสำคัญของคุณหลังก่อนทำการติดตั้ง Windows ใหม่ การป้องกันข้อมูลสามารถทำได้ดีในซอฟแวร์ช่วยเหลือเพิ่มเติมและที่มีการแนะนำมากที่สุดคือ Recoverit Data Recovery ขั้นตอนการใช้ซอฟแวร์นี้จะได้รับการแนะนำให้ส่วนถัดไป ติดตั้ง Windows ใหม่ด้วยไดรฟ์ USB ที่สร้างขึ้นตามให้ทำตามขั้นตอนดังนี้:
- บูตคอมพิวเตอร์ของคุณจากไดรฟ์ที่สามารถบูตได้และคลิก Next บนหน้าจอแรกที่ปรากฎขึ้น
- เลือก Install Now
- คลิกเพื่อระบุว่าคุณไม่มีรหัสผลิตภัณฑ์เนื่องจากคุณทำการติดตั้งอีกครั้งและไม่ใช่ผู้เปิดใช้งานใหม่
- เลือกระบบปฏิบัติการและเลือก Next เพื่อดำเนินการต่อ
- ยอมรับเงื่อนไขแล้วกด Next อีกครั้ง
- เลือก Custom: Install Windows only (advanced) แล้วดำเนินการต่อ
- เลือกไดรฟ์สำหรับการติดตั้ง Windows 10; ปกติแล้วจะเป็น Drive 0 คลิกที่ไดรฟ์แล้วเลือก Delete เพื่อที่จะสามารถลบพาทิชั่นออกจากไดรฟ์ได้
- แล้วกด OK
- เลือกพาทิชั่นที่ว่างแล้วเลือก Next
- เมื่อการติดตั้ง Windows ใหม่เสร็จสิ้น คุณสามารถสร้างบัญชีผู้ใช้งานใหม่และตั้งค่าตามที่คุณต้องการ
วิธีกู้คืนข้อมูลที่ไม่ได้บันทึกหรือสูญหายเนื่องจากรหัสข้อผิดพลาด 0x00000e
Recoverit Data Recovery เป็นซอฟแวร์ช่วยเหลือที่สามารถใช้กู้คืนข้อมูลที่สูญหายหรือไม่ได้บันทึกจากการสูญเสียข้อมูลจากหลายสถานการณ์ ถ้าข้อมูลของคุณหายไปหรือคุณไม่ได้บันทึกข้อมูลที่คุณุไม่สามารถเข้าถึงได้เนื่องจาก รหัสข้อผิดพลาด 0xc00000e Recoverit เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับคุณ มันสามารถเรียกคืนข้อมูลจาก Recycle Bin, Trash ไดรฟ์ที่ถูกล้าง, อุปกรณ์เก็บข้อมูลภายนอก, การ์ด SD ที่เสียหาย, ระบบค้างและอื่น ๆ Recoverit ใช้งานได้ดีกับทั้งระบบปฏิบัติการ Windows และ Mac มันยังสามารถใช้กู้คืนข้อมูลได้หลายประเภทเช่น รูปภาพ, ไฟล์เสียง, วิดีโอ, ไฟล์ซิป และอื่น ๆ
ด้วยการดำเนินการสามขั้นตอนด้านล่างนี้ คุณจะสามารถใช้ Recoverit กู้คืนข้อมูลที่ไม่ได้บันทึกหรือสูญหายจาก รหัสข้อผิดพลาด 0xc00000e:
ขั้นที่ 1: เลือกตำแหน่ง
เลือกตำแหน่งที่คุณต้องการกู้คืนไฟล์แล้วกด Start
ขั้นที่ 2: แสกนในไดรฟ์นั้นๆ
ตำแหน่งดังกล่าวจะถูกตรวจสอบโดยเครื่องมือหลังจากที่คุณได้กด Start ข้อมูลที่สูญหายและไม่ได้บันทึกทั้งหมดจากถูกกู้คืน
ขั้นตอนที่ 3: ดูตัวอย่างและบันทึก
คลิกที่ปุ่ม Recover เพื่อบันทึกข้อมูลที่ได้เรียกคืนมาหลังจากที่คุณดูตัวอย่างแล้ว
ผลลัพธ์
ปัจจัยหลายอย่างอาจทำให้เกิด รหัสข้อผิดพลาด 0xc00000e แต่มันมีวิธีการเพื่อดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาดนี้ หาก Windows 10 ของคุณประสบปัญหาข้อผิดพลาดนี้ คุณมาถูกบทความแล้วที่สามารถช่วยคุณแก้ไขปัญหานี้ได้ สำหรับข้อมูลที่สูญหายหรือไม่ถูกบันทึก คุณสามารถเข้าถึงตำแหน่งและกู้มันคืนมาได้ด้วย Recoverit Data Recovery
Computer Troubleshooting
- Win System Crash
- Windows Tips
- Computer Problems
- Blue Screen Errors
Dea N.
staff Editor