วิธีแก้ไข Google Chrome ค้างบน Windows 10

Dea N.

Jun 12, 2024 • Filed to: Windows Computer Solutions

ด้วยการที่เป็นเว็บเบราเซอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในท้องตลาด ผู้ใช้จึงคาดหวังให้ Google Chrome ใช้การได้ตลอดและเบราเซอร์จะไม่ทำให้ผิดหวัง แต่เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใช้ Windows 10 ได้แจ้งว่าเบราเซอร์ได้ทำให้คอมพิวเตอร์ค้าง ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ Google Chrome มากมายที่บ่นว่าอาการค้างเกิดขึ้นในระหว่างที่พวกเขากำลังทำงาน ทำให้พวกเขาต้องเริ่มทำใหม่หรือแม้แต่ทำให้ข้อมูลหายไป

ถึงแม้ว่าบั๊กจะถูกกล่าวว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณปฏิบัติกับ Chrome เหมือนเป็นไวรัส ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุเช่นกัน แต่โชคดีที่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้อย่างง่าย ๆ ที่เราเตรียมไว้ให้ในบทความนี้แล้ว

ตอนที่ 1: ทำไม Chrome ถึงทำไมคอมพิวเตอร์ค้าง?

สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหานี้ก็คือบั๊กตัวใหม่ที่ปรากฏขึ้นครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2018 เหมือนกับบั๊กทั่ว ๆ ไปที่อาจแทรกแซงระบบของคุณ บั๊กนี้ส่งผลกับ Google Chrome โดยทำให้เบราเซอร์ถูกตรวจจับในฐานะสแกมหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับ Microsoft Tech Support ซึ่งจะปรากฏในกล่องข้อความที่อ้างว่ามาจาก Microsoft และเตือนคุณว่าคอมพิวเตอร์ของคุณติดไวรัสที่อาจแทรกแซงระบบ, รหัสผ่าน และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ ที่คุณมีบนคอมพิวเตอร์

เมื่อคุณพยายามที่จะปิดกล่องข้อความ มันก็จะเด้งกลับขึ้นมาอีกครั้งเนื่องจากระบบถูกออกแบบมาให้แจ้งเตือนเป็นลูปแทนที่จะปิดลง ลูปที่เกิดขึ้นสำหรับข้อความดังกล่าวอาจทำให้การใช้งาน Google Chrome บน Windows 10 หยุดชะงักและจะทำให้ Chrome และระบบล่ม 100%

ตอนที่ 2: 5 วิธีแก้ไข Google Chrome จากการค้างบน Windows 10

แต่อย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้น มีวิธีที่คุณจะแก้ปัญหานี้ได้และป้องกันไม่ให้คอมพิวเตอร์ Windows 10 ของคุณค้าง ซึ่งประกอบไปด้วยวิธีเหล่านี้

วิธีที่ 1: ใช้ตัวเลือก End Task เพื่อแก้ Chrome ทำให้ Windows 10 ค้าง

หนึ่งในวิธีแก้ที่ดีที่สุดสำหรับปัญหานี้ก็คือการใช้ Task Manager เพื่อปิด Google Chrome อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีนี้ใช้ได้ผลเนื่องจากมันจะป้องกัน Chrome ไม่ให้ใช้ทรัพยากรจากระบบของคุณ ในการใช้ "End Task" เพื่อแก้ไข Chrome ทำให้ Windows ค้าง ให้ทำตามขั้นตอนง่าย ๆ เหล่านี้

ขั้นตอนที่ 1: คลิกขวาที่ Windows 10 Taskbar เพื่อเปิด Task Manager คุณสามารถใช้คีย์ "Ctrl + Alt + Delete" เพื่อเปิด Task Manager ได้ด้วยเช่นกัน

ขั้นตอนที่ 2: คลิกที่แท็บ "Processes"

ขั้นตอนที่ 3: ระบุตำแหน่ง "Google Chrome" หรือ "GoogleChrome.exe" และเลือก คลิกที่ "End Task" ที่มุมขวาล่าง

คุณสามารถใช้ Google Chrome ได้อีกครั้งโดยการเปิดโปรแกรมขึ้นมาใหม่ตราบใดที่คุณยังไม่ได้ตั้งค่า Chrome ให้คืนค่าแท็บอัตโนมัติ

วิธีที่ 2: เคลียร์ข้อมูลการเบราซ์

ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นได้เช่นกันหากคุณเปิดหลายแท็บมากเกินไปพร้อมกันและ Google Chrome เกิดการโอเวอร์โหลด วิธีที่ดีที่สุดในการนำข้อมูลส่วนเกินออกที่ทำให้ Chrome ขัดข้องก็คือการเคลียร์ข้อมูลการเบราซ์เป็นประจำ สามารถทำตามได้อย่างง่ายๆตามนี้

วิธีที่ 1: เปิด Chrome บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้วจึงคลิกที่จุดสามจุดด้านมุมขวาบน

ขั้นตอนที่ 2: คลิกที่ "More" แล้วจึงคลิก "Clear Browsing Data" คุณสามารถใช้คีย์ลัด "Ctrl + Shift + Delete" ได้เช่นกัน

ขั้นตอนที่ 3: คลิกที่แท็บ "Advanced" แล้วจึงเลือกรายการที่คุณต้องการนำออกและคลิกที่ "Clear Data"

วิธีที่ 3: ปิด Add-Ons และ Extensions ของ Chrome

ถึงแม้ว่า Extensions และ Add-Ons ของ Chrome อาจเป็นประโยชน์ในการช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงบริการที่เป็นประโยชน์ได้ พวกมันก็อาจทำให้ Chrome ขัดข้องและค้างในบางครั้งด้วยเช่นกัน ดังนั้น จึงอาจเป็นประโยชน์ที่จะปิด Extensions และ Add-Ons โดยเฉพาะเมื่อ Chrome พบกับปัญหาในช่วงที่ผ่านมา และนี่คือวิดีปิด Extensions และ Add-Ons ของ Chrome

ขั้นตอนที่ 1: เปิด Chrome บนคอมพิวเตอร์ของคุณและพิมพ์ "chrome: //extensions" ในช่องค้นหาและกด "Enter" เพื่อเข้าถึง Extensions และ Add-Ons ทั้งหมดใน Chrome คุณสามารถคลิกที่จุดสามจุดที่มุมขวาและเลือก "More Tools" เพื่อหา "Extensions" ได้เช่นกัน

ขั้นตอนที่ 2: ในหน้าต่างที่ปรากฏขึ้น ให้ปิด Extensions เพื่อปิดใช้งานพวกมัน

ขั้นตอนที่ 3: รีสตาร์ทเบราเซอร์เพื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ

วิธีที่ 4: ตรวจสอบมัลแวร์

ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นเมื่อ Chrome ติดมัลแวร์และไวรัส หรือหาก Chrome เป็นปัญหากับโปรแกรมอื่น ๆ บนคอมพิวเตอร์ของคุณ ทั้งสองปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ด้ยวการรีเซ็ท Chrome ในกลับไปเป็นการตั้งค่าเริ่มต้น และนี่คือวิธีในการทำเช่นนั้น

ขั้นตอนที่ 1: เปิด Chrome แล้วจึงคลิกที่จุดสามจุดที่มุมขวาบน เลือก "Settings" เพื่อดำเนินการต่อ

ขั้นตอนที่ 2: คลิกที่ "Advanced"

ขั้นตอนที่ 3: ไปที่หมวด "Reset and clean-up" และคลิกที่ "Reset Settings to their Original Defaults"

ขั้นตอนที่ 4: คลิกที่ "Reset Settings" เพื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ

วิธีที่ 5: ยกเลิกการติดตั้งและติดตั้ง Google Chrome ใหม่

หาก Google Chrome ยังคงค้างอยู่หลังจากที่คุณลองวิธีในข้างต้นมาหมดแล้ว ก็อาจถึงเวลาที่จะติดตั้งเบราเซอร์ใหม่ การติดตั้งใหม่จะกำจัดมัลแวร์, ไวรัส หรือปัญหาเกี่ยวกับการตั้งค่าใด ๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของปัญหา ทำตามขั้นตอนง่าย ๆ เหล่านี้เพื่อยกเลิกการติดตั้งแล้วจึงติดตั้ง Chrome ใหม่อีกครั้ง

ขั้นตอนที่ 1: เปิด Windows 10 Settings (คุณสามารถเปิดได้จาก "Start Menu") แล้วจึงคลิกที่ "Apps"

ขั้นตอนที่ 2: ระบุตำแหน่ง Google Chrome ใต้แท็บ "Apps & Features" คลิกที่จุดนั้นแล้วจึงคลิก "Uninstall"

ขั้นตอนที่ 3: เมื่อโปรแกรมยกเลิกการติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ให้รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ และติดตั้ง windows จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Chrome อีกครั้ง

Chrome อาจค้างบ้างในบางครั้งและถึงแม้ว่าคุณจะไม่เห็นข้อความแจ้งเตือนที่เรากล่าวถึงไป แต่หนึ่งในวิธีที่เราได้เตรียมมาข้างต้นควรที่จะช่วยให้คุณแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ คุณยังสามารถ แก้ไขปัญหา Google Chrome จอดำ ได้ด้วยเช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง: วิธีสำรองประวัติและ Bookmarks ของ Chrome ทำอย่างไร?

ซอฟต์แวร์กู้คืนข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปลอดภัย และเชื่อถือได้ของคุณ

• กู้คืนไฟล์ รูปภาพ เสียง เพลง อีเมลที่สูญหายหรือถูกลบจากอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลใด ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสมบูรณ์
• รองรับการกู้คืนข้อมูลจากถึงขยะ ฮาร์ดไดรฟ์ การ์ดหน่วยความจำ แฟลชไดรฟ์ กล้องดิจิตอล รวมไปถึงกล้องวิดีโอ
• รองรับการกู้คืนจากไฟล์ที่ลบไปแล้ว การฟอร์แมต ฮาร์ดไดรฟ์พัง ไวรัส หรือระบบคอมพิวเตอร์ล่ม

ดาวน์โหลดฟรีดาวน์โหลดฟรี