การแก้ไข USB Device Descriptor ที่ล้มเหลวบน Windows 10

Dea N.

Jun 12, 2024 • Filed to: Answer Hard Drive Problems

USB Device Descriptor มีฟังก์ชันการระบุตัวตนเมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เพื่อให้ Windows สามารถติดตั้งไดรฟ์เวอร์ได้โดยไม่มีความจำเป็นต้องติดตั้งมาก่อน กลไกการทำงานแบบมีมีประโยชน์เพราะไม่จำเป็นต้องมีโปรแกรมที่ติดตั้งแล้วก็ประหยัดเวลาในการค้นหาไดรฟ์เวอร์เฉพาะหรือเปิดการใช้งานจาก CD ถ้าหากว่า USB device descriptor ล้มเหลวนี่คือวิธีที่จะสามารถแก้ไขมัน

ส่วนที่ 1: วิธีการแก้ไข USB Device Descriptor ล้มเหลวบน Windows 10

USB device descriptor ล้มเหลว ที่เกิดขึ้นบ่อยนั้นอาจจะเกิดจากหลายสาเหตุแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเราสามารถช่วยเหลือคุณในการแก้ปัญหาเหล่านี้ มากไปกว่านี้จะต้องไม่ลืมว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับแฟลชไดรฟ์อาจจะทำให้ข้อมูลนั้นสูญหายไปได้ เพราะฉะนั้นจะต้องมีซอฟต์แวร์ที่สามารถ กู้คืนไฟล์ กลับมาจากความล้มเหลวที่เกิดขึ้น

ก่อนอื่นจะต้องตรวจสอบรายละเอียดของความล้มเหลวนั้น วิธีการแก้ไข และต้องดูว่าอุปกรณ์นั้นอยู่ในสภาพดีไหมรวมทั้งข้อผิดพลาดของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำให้อุปกรณ์หยุดทำงานไปได่้เลย รวมทั้งเป็นไปไม่ได้เลยที่ระบบปฏิบัติการจะจดจำได้อีก

ส่วนที่ 2: ภาพรวมของความล้มเหลว USB Device Descriptor

ทุกๆ USB นั้นจะมี descriptor สำหรับระบบที่อ่านและให้ข้อมูลเกี่ยวกับอื่นๆไม่ว่าจะเป็นผู้สร้าง เวอร์ขันของ USB การรับรอง วิธีการกำหนดค่ารวมทั้งจำนวนจุดสิ้นสุดและประเภทของอุปกรณ์นั้น

ถ้าหากตัวจัดการอุปกรณ์ในระหว่างการเชื่อมต่อ USB สิ่งต่อไปนี้จะแสดงขึ้นในรายการไดรฟ์เวอร์: USB ที่ไม่รู้จัก ( Device Descriptor Request ล้มเหลว ) นั่นคือ Windows ไม่สามารถอ่านอุปกรณ์ได้ เพราะฉะนั้นจะไม่สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องเลย

แต่ทำไมปัญหานั้นยังมีอยู่? มันอาจจะเกิดจากฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ล้มเหลว อย่างไรก็ตามข้อผิดนั้นจะเป็นแบบไหนมันมีหลายทางที่สามารถแก้ไขในส่วนถัดไป

ส่วนที่ 3: การแก้ไขเมื่อ USB Device Descriptor ล้มเหลวใน Windows 10 ทำอย่างไร?

วิธีที่ 1: ใช้ฮาร์ดแวร์และเครื่องมือแก้ปัญหาอุปกรณ์

Windows มีเครื่องมือที่ติดตั้งมาด้วยนั่นคือการแก้ปัญหาฮาร์ดแวร์และ USB ได้ทุกประเภท เพื่อการใช้งานที่ถูกต้องจะต้องทำตามขั้นตอนเหล่านี้

1. คลิกที่ Windows จากนั้นพิมพ์ cmd แล้วคลิกขวาที่ Command Prompt แล้วเลือกการทำงานในฐานะผู้ดูแลระบบ

2. เมื่อเปิดชุดคำสั่งแล้วให้พิมพ์ next และกด Enter:
   MSDT EXE -ID DEVICEDIAGNOSTIC
   คุณจะมองเห็นฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ที่ช่วยแก้ไขปัญหา คลิกที่ Next แต่ถ้าหากไม่สะดวก Windows จะแจ้งเกี่ยวกับสิ่งนี้

วิธีที่ 2: สแกนสำหรับการเปลี่ยนแปลงของฮาร์ดแวร์

มีอีกวิธีในการแก้ไขปัญหาคือการใช้คุณสมบัติสแกนหาการเปลี่ยนแปลงของฮาร์ดแวร์ เมื่อสแกนเสร็จแล้วคอมพิวเตอร์จะตรวจพบอุปกรณ์ USB ที่เชื่อมต่อได้

ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

1. เชื่อมต่อ USB กับคอมพิวเตอร์
2. กด Win+X พร้อมกันและเลือก Device Manager
3. คลิกที่ Action ในเมนู Device Manager จากนั้นเลือก Scan เพื่อหาฮาร์ดแวร์ที่มีการเปลี่ยนแปลง
4. ให้ระบบได้ทำงานสักครู่เพื่อหาการเปลี่ยนของฮาร์ดแวร์ทั้งหมด ดูกระบวนการการทำงานเพื่อดูว่าปัญหานั้นได้แก้ไขอย่างไร

วิธีที่ 3: ปิดการใช้งาน Quick Start

Quick start บน Windows หรือเรียกว่า fast startup เป็นกลไกที่ทำให้คอมพิวเตอร์ Windows เริ่มในเวลาไม่นาน แต่อย่างไรก็ตามสิ่งนี้สามารถเป็นปัญหาความเข้ากันได้ที่อาจจะส่งผลต่อการจดจำอุปกรณ์ USB ได้ ปิด Quick start สามารถทำได้ ดังนี้

1. คลิกที่ Windows และไปที่ Windows settings

2. จากหน้าต่าง Windows Settings คลิกที่ System

3. จากรายการซ้ายมือคลิกที่ Power & sleep

4. จากรายการซ้ายมือคลิกที่ Additional power settings

5. จากรายการซ้ายมือให้เลือกจากปุ่ม power

6. คลิกที่ตัวเลือกการตั้งค่าการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะหายไปสักพัก

7. คลิกที่ช่องทำเครื่องหมายที่อยู่ถัดจาก Turn on fast startup (recommended) และจะต้องปิดการใช้งานของ Quick start บน Windows

วิธีที่ 4: อัปเดต BIOS

ถ้าหากว่า BIOS นั้นล้าสมัยมันสามารถทำให้อุปกรณ์เข้ากันไม่ได้หรือจดจำไม่ได้ เราแนะนำให้ติดต่อกับผู้ขายเพื่อช่วยการแก้ไขปัญหานี้ตามกระบวนการเพราะเนื่องจากเป็นการแก้ไขที่ต้องใช้ความเชียวชาญอย่างมาก

วิธีที่ 5: อัปเดตตัวนำของ USB Hub

การอัปกเดตตัวนำของ USB Hub อยู่ตลอดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการเข้ากันได้กับอุปกรณ์อื่นๆที่ต้องการเชื่อมต่อ ตรวจสอบการอัปเดตและทำตามขั้นตอนเหล่านี้

1. คลิกขวาที่ Windows จากนั้นเลือกตัวเลือกแบบเลื่อนลงและคลิกที่ Device Manager

2. เมื่อเปิด Device Manager ขึ้นแล้วให้เลื่อนลงมาที่ Universal Serial Bus controllers

3. คลิกขวาที่ Generic USB Hub และคลิกที่ Update Driver Software ถ้าหากยังมีการอัปเดตที่รออยู่ Windows จะทำการติดตั้งการอัปเดตอัตโนมัติ

วิธีที่ 6: ปิดการตั้งค่าการใช้งานของ USB Selective Suspend

การตั้งค่าระงับการเลือก USB จะทำให้ประหยัดพลังงานและแบตเตอรี่โดยมันจะรักษาขั้นต่อ USB ให้อยู่ในการใช้พลังงานต่ำ แต่อย่างไรก้ตามมันอาจจะทำให้เกิดปัญหาด้านพลังงานเมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ ดังนั้นการปิดการใช้งานอาจจะเป็นปัญหาได้ เราจะมาบอกว่าวิธีการนั้นทำอย่างไร ดังนี้

1. คลิกที่ Windows และไปที่ตัวเลือกของ Power จากนั้นเปิดหน้าต่าง Windows Power ขึ้นมา

2. คลิกที่เปลี่ยนการตั้งค่าถัดจาก Balanced (recommended)

3. คลิกที่การตั้งค่า Change advanced power

4. จากรายการการตั้งค่าขั้นสูงเลื่อนลงและคลิกที่การตั้งค่า USB จากนั้นคลิกที่การตั้งค่าระงับการเลือก USB และเปลี่ยนเป็น Enabled สำหรับ Disabled ของทั้งสองในแบตเตอรี่และตัวเลือกของ Plugged in สุดท้ายคลิกที่ Apply สิ่งนี้จะเพียงพอต่อการปิดการใช้งานการตั้งค่าการระงับการเลือก USB

วิธีที่ 7: ใช้ตัวแก้ปัญหา

คุณสามารถแก้ไขปัญหาการเริ่มต้น Windows ได้ซึ่งมันอาจจะทำให้ USB เข้ากับอุปกรณ์ไม่ได้ ขั้นตอนนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยขั้นตอนเหล่านี้

1. คลิกที่ Windows และไปที่ Windows settings

2. จากรายการการตั้งค่า Windows คลิกที่ Update & Security

3. จากรายการด้านซ้ายคลิกที่ Troubleshoot และเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดเพื่อการแก้ไขปัญหา Windows จะทำการแก้ไขปัญหาได้ทันที

วิธีที่ 8: ติดตั้ง USB Hub ใหม่

การติดตั้งไดรฟ์เวอร์ USB Hub ใหม่อาจจะเป็นอีกตัวเลือกที่มีประโยชน์เพราะการทำแบบนี้สามารถแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการรับรู้ของอุปกรณ์ USB ที่มาจากไดรฟ์เวอร์ USB Hub

เมื่อต้องการเริ่มต้นกระบวนการนี้ให้ทำตามขั้นตอนที่ 1 และ 2 จากวิธีที่ 4 ตอนนี้สามารถทำตามได้ ดังนี้

ขั้นตอนที่ 3: ถอนการติดตั้ง Generic USB Hub

คลิกขวาที่ Generic USB Hub จากนั้นคลิก Uninstall หลังจากนั้นรีเซ็ตคอมพิวเตอร์และ Windows จะทำการดาวน์โหลดการติดตั้งอัตโนมัติของไดรฟ์เวอร์ Generic USB Hub

ตอนที่ 4 กู้คืนข้อมูลที่หายไปจากความล้มเหลวของ USB Device Descriptor

ถ้าหากว่าอุปกรณ์ USB ที่เก็บข้อมูลนั้นเกิด descriptor ล้มเหลว ข้อมูลเหล่านั้นมีความเสี่ยง แต่อย่างไรก็ตามไม่ต้องกังวลไปเนื่องจาก Recovrerit คือแอปพลิเคชันมืออาชีพที่จะดึงไฟล์เหล่านั้นกลับมาได้ภายในไม่กี่ขั้นตอน

คุณสามารถดาวน์โหลดมาจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ สามารถใช้โปรแกรมได้อย่างง่ายดายด้วยขั้นตอนด้านล่างนี้

วิดีโอสอนเกี่ยวกับการกู้คืนไฟล์บน Windows 10/8/7

วิดีโอล่าสุด จาก Recoverit

ดูเพิ่มเติม >

ขั้นตอนที่ 1: เลือกไดรฟ์

จำไว้ว่าจะต้องเชื่อมต่อ USB กับคอมพิวเตอร์ก่อนการรัน Recoverit ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันจดจำได้

ในการเริ่มต้นกระบวนให้เลือก USB เป็นตำแหน่งจากนั้นคลิก Start ถึงแม้ว่าพาร์ติชันบนอุปกรณ์จะสูญหายยังสามารถใช้ Recoverit เพื่อนำข้อมูลที่สูญหายกลับมาได้

ขั้นตอนที่ 2: สแกนข้อมูลจากไดรฟ์ภายนอกหรือฮาร์ดไดรฟ์

รอไม่กี่นาทีขณะที่ Recoverit ทำการสแกนพื้นที่จัดเก็บของ USB สามารถหยุดชั่วคราวเพื่อดูไฟล์ที่กู้กลับคืนมาจากแอปพลิเคชัน

ขั้นตอนที่ 3: ดูตัวอย่าง และกู้คืนไฟล์ที่สูญหาย

เมื่อ Recoverit ทำการสแกนเสร็จแล้วสามารถดูตัวอย่างในแต่ล่ะไฟล์ได้ จากนั้นคลิกที่ Recover และจัดเก็บข้อมูลในที่ปลอดภัย

บทสรุป

USB ได้รับความนิยมมากในการใช้งานกับคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อปโดยรองรับอุปกรณ์ต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามมันมีข้อบกพร่องบางอย่างที่เกี่ยวกับ Device Descriptor ยังดีที่มีการแก้ไขปัญหานี้และถ้ามันส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ที่จัดเก็บข้อมูลไม่ต้องกังวลไปเพราะ Recoverit สามารถช่วยคุณได้