Jun 12, 2024 • Filed to: Answer Hard Drive Problems
มันไม่สำคัญว่าคุณกำลังใช้ระบบปฏิบัติการ Windows หรือ Mac เพราะฮาร์ดไดรฟ์ของระบบเป็นส่วนที่สำคัญอย่างแน่นอน ฮาร์ดไดรฟ์ที่เสียหายหรือทำงานผิดปกติสามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานทั้งหมดของคอมพิวเตอร์และทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา ฮาร์ดดิสก์สามารถล้มเหลวได้หลังจากที่สะสม bad sectors มาเป็นเวลานานหรือเสียหายในทันที ความเสียหายที่เกิดขึ้นทีละอย่างของฮาร์ดดิสก์นั้นยากที่จะตรวจสอบเนื่องจากอาการของมันจะคล้ายกับปัญหาอย่างอื่นเช่น ไวรัสและมัลแวร์ โดยปกติอาการเหล่านี้คือ ไฟล์เสียหายและความเร็วเครื่องลดลง ความเสียหายของฮาร์ดดิสก์มักมีผลมาจากการเพิ่มขึ้นของ bad sectors ที่เกิดขึ้นและทำให้ฮาร์ดดิสก์ทำงานไม่ได้อย่างช้า ๆ
ฮาร์ดดิสก์ล้มเหลว สามารถเกิดขึ้นได้ทันที เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ หรือเกิดในบางส่วนและส่วนมากการกู้คืนข้อมูลนั้นเป็นไปได้ หากคุณ ประสบปัญหาของฮาร์ดดิสก์เช่นนี้ ไม่ต้องกังวลไป เราพร้อมช่วยเหลือคุณด้วยคำแนะนำที่คลอบคลุมปัญหาบนฮาร์ดดิสก์และวิธีการแก้ไขที่จะสามารถช่วยให้คุณแก้ปัญหาที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้ มาเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ และการแก้ไขทีละขั้นของปัญหาทั่วไปของฮาร์ดไดรฟ์ที่ผู้ใช้งานพบเจอ
สิ่งแรกเลยคือ คุณสามารถอ่านข้อมูลทั่วไปเพื่อให้มีความรู้รอบด้านเกี่ยวปัญหาของฮาร์ดไดรฟ์และการแก้ไข จากนั้นเราจะอธิบายถึงรายละเอียดในส่วนถัดไป
ก่อนที่เราจะไปที่รายละเอียดและการแก้ปัญหาของฮาร์ดไดรฟ์ สิ่งคำคัญคือต้องรู้ข้อมูลพื้นฐานก่อน เพื่อที่จะรู้ปัญหาของคอมพิวเตอร์และการแก้ไข คุณจำเป็นต้องรู้ว่าฮาร์ดดิสก์คืออะไรและทำงานอย่างไร
ประวัติของฮาร์ดไดรฟ์อาจยาวนานเท่ากับคอมพิวเตอร์เนื่องจากถูกสร้างครั้งแรกโดย IBM ในปี 1956 ตามหลักแล้ว ฮาร์ดไดรฟ์ถูกใช้เพื่อเก็บข้อมูลของระบบ (หากเป็นอุปกรณ์ภายใน) โดยจัดให้เป็นการจัดเก็บแบบถาวรซึ่งแตกต่างจากหน่วยความจำพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ (RAM) อุปกรณ์จัดเก็บภายในเชื่อมต่อกับแผงวงจรหลักของระบบเช่นเดียวกับ power socket ในทุกวันนี้ ฮาร์ดดิสก์แบบพกพาที่ใช้หน่วยความจำแฟรชถูกใช้อย่างกว้างขวาง
ฮาร์ดดิสก์แบบแม่เหล็กยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เราจะยกตัวอย่างเพื่ออธิบายถึงหลักการทำงานของมัน ตามหลักการแล้วมันเป็นหน่วยแบบทรงกระบอกที่ประกอบไปด้วยแผ่นแม่เหล็กจำนวนมากมาย แต่ละแผ่นถูกแบ่งให้เป็นส่วนต่าง ๆ มากมาย ในแผ่นประกอบด้วยหน่วยย่อยที่ใช้เพื่อเก็บข้อมูลแบบเลขฐาน (0 หรือ 1) แกนหมุ่นอยู่ตรงกลางของดิสก์เพื่อหมุนตัวเครื่อง
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราอยากจะใช้งานหรือเก็บข้อมูล หัวอ่าน/เขียนจะถูกย้ายไปที่บริเวณเฉพาะ แกนหมุนจะหมุนหัวอ่านหรือเขียนเพื่อลงข้อมูล กระบวนการทั้งหมดถูกจัดการและควบคุมโดย ตัวควบคุมฮาร์ดดิสก์ ซึ่งมั่นใจได้ว่าเป็นไปอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูลและการกู้คืน
ตามหลักแล้วฮาร์ดดิสก์สามารถแบ่งได้หลายประเภทตามพื้นฐานของหลาย ๆ ตัวแปรดังนี้
เนื่องจาก Solid State Drives (SSDs) ใหม่กว่าและดีกว่า จึงถูกจัดว่าดีกว่า HDDs ไม่เพียงแต่เร็วกว่าแต่ยังปลอดภัยกว่าดิสก์แม่เหล็ก เพราะข้อมูลที่เก็บใน HDD ไม่สามารถดัดแปลงการใช้แม่เหล็กได้ ดังนั้นความเร็วและภาพรวมที่เห็นจึงดีกว่า HDD
ก่อนที่ฮาร์ดไดรฟ์จะเสียหายทั้งหมด มันมีสัญญาณที่เราไม่ควรมองข้าม นี่คือบางอาการหลักของฮาร์ดไดรฟ์ที่เราควรใส่ใจ
โดยส่วนมากผู้ใช้งานร้องเรียนเกี่ยวกับเสียงแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นจากหัวของฮาร์ดไดรฟ์ โดยปกติมันจะเกิดขึ้นเมื่อแหล่งจ่ายไฟสำหรับดิสก์ถูกทำลาย
เมื่อผู้ใช้งานพยายามเข้าถึงดิสก์หรือพาทิชั่น พวกเขาจะถูกปฏิเสธการเข้าใช้ ซึ่งหมายความว่าระบบไม่สามารถระบุตำแหน่งของฮาร์ดดิสก์หรือพาทิชั่นเฉพาะได้ ไม่มีการเชื่อมต่อหรือที่เก็บข้อมูลเสียหายสามารถทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้
หากคอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดไดรฟ์ค้างบ่อยครั้ง โปรดรู้ว่ามันคืออาการสำคัญของฮาร์ดไดรฟ์เสีย ดิสก์สามารถหยุดทำงานได้ตลอดเวลา
มีหลายครั้งที่ข้อมูลที่เก็บไว้หายไปหรือเข้าถึงไม่ได้ สองสิ่งนี้คือปัญหาของฮาร์ดไดรฟ์ที่แสดงอาการถึงปัญหาที่จะเกิดต่อไป
ขณะที่ระบบกำลังตรวจสอบอาจมีหน้าจอระบุว่าระบบไม่สามารถโหลด/หาตำแหน่งไฟล์ได้ สิ่งนี้บ่งบอกว่าฮาร์ดไดรฟ์ทำงานไม่ปกติ
และนี่คืออาการเสียของฮาร์ดไดรฟ์โดยทั่วไปซึ่งจะปรากฎเมื่อระบบไม่สามารถหาตำแหน่งของ OS หรือไฟล์สำคัญ หมายความว่าระบบได้ยกเลิกการทำงานแล้วลองใหม่และเกิดล้มเหลว
บางครั้งฮาร์ดดิสก์อาจมีบางส่วนที่เสีย ในกรณีนี้ คอมพิวเตอร์จะมีข้อความแจ้งเตือน ซึ่งสามารถเป็น อาการหลักของปัญหาของฮาร์ดไดรฟ์ ที่คุณไม่ควรมองข้าม
ผู้ใช้งานจะเจอกับปัญหาของฮาร์ดไดรฟ์ที่แตกต่างกันไป ส่งผลให้เครื่องทำงานผิดปกติหลายประการ ซึ่งปัญหาโดยทั่วไปที่เราพบคือ
ในขณะที่เปิดเครื่องคุณอาจได้รับข้อความไม่พบฮาร์ดไดรฟ์ Hard Drive Not Found บนหน้าจอ ซึ่งทำให้เครื่องของคุณไม่ตอบสนองต่อคำสั่งการ ปัญหาของฮาร์ดดิสก์จะปรากฎเมื่อสายที่เชื่อมต่อภายในถูกทำลายหรือสูญหาย เครื่องโดนน้ำหรือถูกกระทบอาจทำให้เกิดปัญหานี้ได้ พาทิชั่นย่อยอาจสูญหายหรือถูกทำลายเช่นกัน
นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการแก้ไขปัญหาของฮาร์ดไดรฟ์ ปิดเครื่องแล้วถอดปลั๊กหรือแบตเตอรี่ ยกเลิกการเชื่อมต่ออุปกรณ์พ่วงและกดปุ่มปิดค้างไว้ 15 วินาที เมื่อรอได้สักพักแล้วเชื่อมต่อแบตเตอรี่/ปลั๊ก (ไม่ใช่อุปกรณ์ต่อพ่วง) และเปิดเครื่อง
สิ่งนี้อาจเป็นงานที่น่าเบื่อ คุณจะต้องแกะเครื่องออกและตรวจสอบการเชื่อมต่อฮาร์ดไดรฟ์ หากไม่มีการเชื่อมต่อคุณต้องนำไปที่ร้านเพื่อทำบัดกรี
คุณสามารถสำรวจเพิ่มเติมจาก ชุมชนวิดีโอ Wondershare
ตามที่แนะนำ ข้อผิดพลาดนี้แสดงถึงดิสก์ทั้งหมดหรือ ระดับของดิสก์ ถูกทำลาย เมื่อปัญหาเกิดขึ้น ผู้ใช้งานจะได้รับข้อผิดพลาดดังกล่าวพร้อมกับรหัสตัวเลข ปัญหาสามารถเกิดได้กับทั้งฮาร์ดไดรฟ์ภายในและภายนอก ความเสียหายบนฮาร์ดไดรฟ์หรือเครื่องดับเป็น 2 สาเหตุหลักของปัญหาของฮาร์ดดิสก์ หากเป็นอุปกรณ์ภายนอก ไฟล์ที่ระบบไม่รองรับหรือตัวอุปกรณ์คือสาเหตุ
หากดิส์ทำงานไม่ถูกต้อง คุณควรตรวจสอบระบบอัตโนมัติ โดยคลิกขวาแล้วไปที่ Properties ภายใต้แถบเครื่องมือไปที่ Error Checking section แล้วกด Check ทำตามขั้นตอนที่แสดงเพื่อแก้ปัญหาข้อผิดพลาดของระบบ
ส่วนมากความผิดพลาดจะเกิดขึ้นเมื่อใช้งานฮาร์ดไดรฟ์แบบพกพา เช่น USB drive หรือ SD card ในกรณีนี้ให้ถอดอุปกรณ์ภายนอกออกและปิดเครื่อง รีสตาร์ทแล้วเชื่อมต่ออุปกรณ์อีกครั้งเพื่อตรวจสอบว่ายังคงเกิดความผิดพลาดหรือไม่
ฮาร์ดไดรฟ์ภายในนั้นเก็บเฟิร์มแวร์และระบบปฏิบัติการ ซึ่งความล้มเหลวอาจเป็นเหตุในการบูตระบบของเครื่อง ผู้ใช้งานจะได้รับแจ้งเตือนเมื่อเครื่องไม่สามารถบูตได้ มันจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า BIOS หรือระบบไฟล์สำคัญสูญหาย ส่วนที่ระบบปฏิบัติการติดตั้งไว้สามารถถูกทำลายได้ซึ่งเป็นเหตุให้คอมพิวเตอร์เกิดปัญหา
หากมีปัญหากับการตั้งค่า BIOS ของระบบ วิธีนี้สามารถช่วยได้ เปิดเครื่องและกดปุ่ม BIOS อาจจะเป็น F10 F12 F2 DELETE เป็นต้น เมื่อหน้าต่าง BIOS เปิดขึ้นมาแล้ว กด F9 เพื่อคืนค่าการตั้งค่า ปิดหน้าต่างและ รีสตาร์ทเครื่อง
คุณสามารถใช้ความช่วยเหลือจากสื่อสำหรับการบูตหรือ Windows installer เพื่อเริ่มต้นระบบ ลำดับแรก ไปที่ Windows Settings > Recovery > Advanced Setup และกดปุ่ม Restart Now เชื่อมต่อ Windows CD/DVD หรือ bootable media กับระบบ สิ่งนี้จะอนุญาตให้คุณติดตั้ง Windows บนเครื่องอีกครั้งหรือบูตเครื่องจากสิ่งอื่น
แม้ว่าคุณจะพยายามหลีกเลี่ยงเท่าไหร่ โอกาสที่ฮาร์ดดิสก์จะถูกทำลายนั้นเกิดขึ้นได้ ส่วนมากข้อผิดพลาดจะเกิดกับเครื่อง HP แต่ PCs จากบริษัทอื่นก็เกิดได้เช่นกัน เครื่องถูกมัลแวร์ บางส่วนเสียหาย โปรแกรมเสีย เป็นตัวนำให้เกิดปัญหา หากเครื่องของคุณพยายามเข้าถึงไฟล์ที่ไม่มีอยู่แล้ว อาจเกิดข้อผิดพลาดได้
เนื่องจากข้อผิดพลาดของฮาร์ดไดรฟ์เกิดกับเครื่อง HP เราจึงนำมาเป็นตัวอย่างการแก้ปัญหา สำหรับระบบอื่นคีย์อาจต่างกัน การแก้ไขคือ รีสตาร์ทเครื่องของคุณและกด F2 เพื่อ run หาสาเหตุของระบบ หน้าจอจะแสดงคีย์สำคัญเพื่อดำเนินการ
เมื่อหน้าต่างแสดงสาเหตุเปิดขึ้น เลือกดำเนินการ Component Tests และเลือกฮาร์ดไดรฟ์จากตัวเลือก ยืนยันและรอสักครู่ระบบจะ run หาสาเหตุโดยละเอียดและพยายามแก้ไข
สิ่งนี้ถูกตั้งให้เป็นข้อผิดพลาดสำคัญของฮาร์ดดิสก์ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ดิสก์ไม่สารถโหลดการบูตหรือระบบไฟล์ได้ คุณจะต้องหาสาเหตุโดยละเอียดเพื่อแก้ไขมัน หากไม่ คุณสามารถพิจารณาการรีเซ็ตระบบได้ ข้อผิดพลาดของฮาร์ดไดรฟ์มักเกิดจากบางส่วนถูกทำลายหรือปัญหาเฟิร์มแวร์ คุณอาจลบไฟล์สำคัญโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งส่งผลให้ไม่สามารถเข้าถึงส่วนประกอบ OS
หากโปรแกรมหรือแอปพลิเคชั่นเป็นปัญหาของฮาร์ดดิสก์ โปรดพิจารณาการรีสตาร์ทเครื่องในโหมดปลอดภัย รีสตาร์ทเรื่องและกด F8 2-3 นาทีเพื่อเข้าสู่การบูตขั้นสูง คีย์อาจแตกต่างกันแต่ละเวอร์ชั่น เลือก Safe Mode แล้วกด enter แล้วเครื่องจะบูตในโหมดปลอดภัย
วิธีนี้ใกล้เคียงกับฟีเจอร์ใหม่บนระบบปฏิบัติการ Windows 8 และ 10 ตามหลักแล้ว มันเหมือนกับการตั้งค่าคอมพิวเตอร์ใหม่และลบโปรแกรมที่ติดตั้งและแอปพลิเคชั่นออกจากเครื่องโดยอัตโนมัติ ดำเนินการง่าย ๆ โดยไปที่ Windows Settings > Windows Defender & Security Settings > Device Performance and health ไปที่ตัวเลือก Fresh Start และเริ่มดำเนินการ ทำตามขั้นตอนง่ายเพื่อรีเซ็ตระบบและกำจัดไฟล์อันตราย
ฮาร์ดไดรฟ์สามารถเก็บข้อมูลได้ดีและเข้าถึงได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม บางครั้งอาจเสี่ยงที่ข้อมูลสำคัญจะหายไปเพราะฮาร์ดไดรฟ์ถูกทำลาย หากไดรฟ์หรือพาทิชั่น/sector ทั้งหมดถูกทำลาย ไฟล์ที่บันทึกไว้จะถูกลบโดยอัตโนมัติ
มีหลายสาเหตุที่ข้อมูลถูกลบจากเครื่อง ที่เก็บข้อมูลถูกทำลาย โปรแกรมเกิดข้อผิดพลาด bad sector ติดมัลแวร์ หรือปัญหาอื่น ๆ คุณอาจล้างหรือลบข้อมูลโดยไม่ตั้งใจ หากไม่มีวิธีแก้ปัญหาสำหรับเรื่องนี้ โปรดลองเครื่องมือกู้คืนข้อมูล
ไม่สำคัญว่าคุณกำลังประสบปัญหาแบบใด คุณจะสามารถผ่านไปได้ด้วย Recoverit Data Recovery มันเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows และ Mac แอปพลิเคชั่นง่ายต่อการใช้งานและมีประสิทธิภาพขั้นสูง ไม่เพียงแต่สามารถกู้คืนข้อมูลจาก Windows/Mac's หรืออุปกรณ์ภายในเท่านั้น แต่ยังใช้ได้กับอุปกรณ์ภายนอกเช่น USB drive, SD card, อื่น ๆ สิ่งที่คุณต้องทำคือดำเนินการตามขั้นตอนหลังจากดาวน์โหลด Recoverit ไว้ในเครื่องแล้ว
ขั้นตอนที่ 1: เลือกที่ที่ต้องการตรวจสอบ
ลำดับแรก เปิดการใช้งาน Recoverit Data Recovery บนเครื่องและเลือกที่ที่ต้องการตรวจสอบ สามารถเลือกไดรฟ์ทั้งหมดหรือพาทิชั่น/โฟล์เดอร์
ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบฮาร์ดไดรฟ์
เมื่อกดที่ปุ่ม Start แอปพลิเคชั่นจะตรวจสอบไดรฟ์หรือพาทิชั่นที่เลือก รอสักครู่เพื่อให้การดำเนินการเสร็จสิ้น
ขั้นตอนที่ 3: เรียกคืนข้อมูล
ในขั้นสุดท้าย แอปพลิเคชั่นจะให้คุณดูไฟล์ที่ได้คัดลอกมาระหว่างดำเนินการ คุณสามารถเลือกข้อมูลที่ต้องการแล้วกด Recover เพื่อบันทึก โปรดมั่นใจว่าได้บันทึกไว้ในที่ที่ปลอดภัย (ไม่ใช่ในฮาร์ดดิสก์ที่ถูกทำลาย)
ความเสียหายของระบบไฟล์มักเกิดจากเครื่องดับกะทันหัน ทำให้คุณไม่สามารถเข้าถึงฮาร์ดไดรฟ์และระบบได้ บางสาเหตุสำหรับความเสียหายของระบบไฟล์คือ ไฟตก ใช้โปรแกรมไม่ปลอดภัย ปิดโปรดแกรมโดยไม่ตั้งใจและปิดเครื่องไม่ถูกต้อง
วิธีการแก้ปัญหานี้คือเพื่อมั่นใจว่าคุณได้ปิดโปรแกรมทุกอย่างที่กำลังเปิดอยู่ก่อนปิดเครื่องของคุณ ยิ่งไปกว่านั้นคุณต้องปิดเครื่องให้เป็นไปตามมาตรฐาน นอกจากนี้ คุณควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งโปรแกรมที่เสี่ยงต่อฮาร์ดไดรฟ์และหมั่นทำความสะอาดสม่ำเสมอเพื่อที่จะไม่มีโปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์
หากคุณพยายามที่จะเชื่อมต่อฮาร์ดไดรฟ์แบบพกพากับคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณอาจได้รับข้อความ error ลำดับต่อมาคือ ไม่อนุญาตให้คุณเข้าถึงข้อมูลที่เก็บไว้ในดิสก์ที่เชื่อมต่อ ไฟล์ที่ต่างกันบนฮาร์ดไดรฟ์หรือความเสียหายสามารถทำให้เกิดปัญหาได้ หากดิสก์เสียหายก็จะแสดงข้อผิดพลาดของฮาร์ดไดรฟ์
ส่วนมากพอร์ตเสียหาย สาย หรือไดรฟ์ทำให้เกิดปัญหาชองฮาร์ดไดรฟ์ได้ โปรดมั่นใจว่าอุปกรณ์พร้อมใช้งานและพอร์ต USB ไม่เสีย ทำความสะอาดเศษหรือฝุ่นโดยละเอียดและเชื่อมต่ออีกครั้ง
หากรูปแบบดิสก์ของฮาร์ดไดรฟ์หรือไฟล์ไม่เข้ากันกับระบบ อาจทำให้เกิดปัญหาของฮาร์ดดิสก์ เพื่อแก้ใข ให้คุณล้างไดรฟ์ของคุณ เชื่อมต่อกับระบบ เปิด My Computer แล้วคลิกขวาที่ปุ่มฮาร์ดไดรฟ์ ไปที่ตัวเลือก Format และเลือกระบบไฟล์ให้อยู่ในรูปแบบที่เข้ากันได้ (เช่น NTFS) กดที่ปุ่ม Start เพื่อล้างข้อมูลบนไดรฟ์และติดตั้งรูปแบบไฟล์ใหม่
ข้อผิดพลาดร้ายแรงที่ผู้ใช้งานได้รับขณะทำงานกับฮาร์ดไดรฟ์ภายในและภายนอก ส่วนมากจะเชื่อมต่อกับปัญหาฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ บางครั้งข้อผิดพลาดเชิงตรรกะก็ทำให้เกิดปัญหานี้ได้ หากคุณพยายามเข้าถึงหรือคัดลอกไฟล์ที่ไม่มีอยู่ คุณจะได้รับข้อผิดพลาดของฮาร์ดดิสก์เช่นกัน นอกจากขาดการเชื่อมต่อ ความเสียหายภายนอก ไดรเวอร์เข้ากันไม่ได้ก็ทำให้เกิดปัญหาได้
หากปัญหาไดรฟ์เหล่านี้เกิดจากขาดการเชื่อมต่อ คุณควรพิจารณาแนวทางนี้ ยกเลิกการเชื่อมต่อฮาร์ดไดรฟ์ภายนอกและรีสตาร์ทเครื่อง จากนั้นลองเชื่อมต่ออีกครั้งและตรวจสอบว่าระบบตรวจพบไดรฟ์หรือไม่ แกะเครื่องและตรวจสอบว่าฮาร์ดไดรฟ์ได้เชื่อมต่ออย่างถูกต้องหรือไม่
มันจะมีช่วงเวลาที่ฮาร์ดไดรฟ์ทำงานผิดปกติจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับไดรเวอร์ ในขั้นนี้คุณควรพิจารณาการรีเซ็ตไดรเวอร์เพื่อแก้ไขปัญหาของฮาร์ดดิสก์ ไปที่ Device Manager จากแถบเมนู Start และขยายตัวเลือก Disk Drives เลือกและคลิกขวาตัวเลือกไดรเวอร์ จากตัวเลือกคุณสามารถปิดใช้งานอุปกรณ์ รอสักพักแล้วเปิดใช้งานอีกครั้งเพื่อแก้ปัญหาของฮาร์ดไดรฟ์
นอกเหนือจากการรีเซ็ตไดรเวอร์แล้ว คุณสามารถอัปเดตได้ด้วย ทำได้ง่าย ๆ โดยเปิดการใช้งานตัวเลือก Device Manager และเลือกรายการไดรเวอร์ใต้ฟีเจอร์ Disk Driver ไปที่ Properties > แถบ Driver แล้วกดปุ่ม Update Driver จากนั้นดำเนินการตามขั้นตอนที่แสดงบนหน้าจอเพื่ออัปเดตดิสก์ไดรเวอร์บนเครื่อง
สาเหตุนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่พบได้ทั่วไป การเก็บข้อมูลมากมายไว้บนดิสก์ทำให้เครื่องเต็มได้ ไม่เพียงทำให้ฮาร์ดไดรฟ์เสียหรือทำงานผิดปกติ แต่ยังทำให้ ระบบทำงานช้า การเก็บรูป วิดีโอ เอกสารและไฟล์อื่น ๆ อีกมากมาย คุณยังติดตั้งแอปพลิเคชั่นที่ไม่ได้ใช้งานจำนวนมากอีกด้วย การแบ่งส่วนของดิสก์บ่อย ๆ ทำให้เกิดการกระจายของดิสก์
การแก้ไขที่ง่ายที่สุดสำหรับข้อผิดพลาดของฮาร์ดดิสก์คือลบข้อมูลที่ไม่ต้องการ ไปที่พาทิชั่นของดิสก์และเริ่มการลบวิดีโอ รูปภาพ เอกสารและอื่น ๆ ที่ไม่ต้องการแล้ว แค่ให้มั่นใจว่าคุณไม่ได้ลบไฟล์ที่สำคัญไปด้วย ไปที่ Recycle Bin และลบข้อมูลเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่าง
หากคุณติดตั้งแอปพลิเคชั่นและโปรแกรมมากมายบนเครื่องของคุณ คุณควรลบออก เพื่อดำเนินการไปที่ Control Panel > Programs > Programs and Features สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows เวอร์ชั่นใหม่ ให้ไปที่ Applications ภายใต้แถบ Settings แล้วเลือกโปรแกรมที่ต้องการลบแล้วกด Uninstall ดำเนินการตามขั้นตอนที่แสดงบนหน้าจอเพื่อลบการติดตั้งโปรแกรมแล้วรีสตาร์ทเครื่องของคุณ
เมื่อเรารวมพาทิชั่นดิสก์หรือเชื่อมส่วนประกอบที่ต่างกันทำให้เกิดการกระจายของดิสก์ ด้วยความช่วยเหลือของเครื่องมือแยกส่วนดิสก์ คุณสามารถเพิ่มพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ของคุณได้ โดยดำเนินการดังนี้ ไปที่แถบเมนู Start Menu และมองหา Disk Defragmenter คุณสามารถเข้าถึงได้จาก System Tools > Disk Defragmenter อีกด้วย ยืนยันบัญชีของคุณโดยใส่รหัสและเลือกจัดการตามที่ต้องการ
เมื่อฮาร์ดไดรฟ์ค้าง ผู้ใช้งานส่วนมากจะสูญเสียไฟล์สำคัญหากระบบไม่สามารถบูตได้อย่างถูกต้อง หากข้อมูลยังคงอยู่ก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ เพื่อกู้ข้อมูลคืนมา คุณต้องสร้างสื่อการบูตและ run การกู้ข้อมูลบนเครื่อง
ส่วนประกอบเฟิร์มแวร์หรือระบบไฟล์สำคัญสามารถลบออกจากเครื่องได้ทั้งหมด รวมถึงความเสียหายทางกายภาพหรือค้างเนื่องจากพื้นที่ว่างน้อยบนดิสก์
สิ่งนี้ทำให้ Recoverit เป็นวิธีการกู้คืนข้อมูลที่สมบูรณ์แบบ คุณสามารถร้างสื่อกู้คืนที่สามารถบูตได้และกู้คืนข้อมูลบนระบบที่ค้างได้อีกด้วย แอปพลิเคชั่นสามารถทำ CD DVD หรือ USB drive ให้เป็น WinPE สื่อที่สามารถบูตได้
ขั้นตอนที่ 1: เริ่มกู้คืนระบบที่ถูกทำลาย
ลำดับแรกให้ติดตั้งและเปิดใช้งาน Recoverit และจากหน้าจอหลักให้เลือกตัวเลือกกู้คืนระบบที่ถูกทำลาย ลำดับต่อมา เชื่อมต่อ CD/DVD หรือ USB drive ที่เครื่อง (ที่คุณต้องการสร้างสื่อการบูต)
ขั้นตอนที่ 2: สร้างสื่อที่สามารถบูตได้
เลือกไดรฟ์ที่คุณต้องการเปลี่ยนเป็นสื่อการบูตจากการเชื่อมต่อ คุณจำเป็นต้องยืนยันเนื่องจากข้อมูลที่มีอยู่อาจถูกลบ
เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น แอปพลิเคชั่นจะแจ้งให้ทราบว่าสื่อการบูตถูกสร้างแล้ว คุณสามารถถอดออกจากเครื่องได้
ขั้นตอนที่ 3: บูตระบบที่ถูกทำลาย
เปิดระบบที่ไม่มีการบูตและกดปุ่ม BIOS (F12/F10/DEL) เพื่อการตั้งค่าบูต จากขั้นตอนนี้คุณสามารถเปลี่ยนสื่อการบูตหลัก (USB drive หรือ CD/DVD ที่เชื่อมต่ออยู่) ออกจากการตั้งค่า BIOS แล้วบูตระบบจากสื่อที่เชื่อมต่อเพื่อเริ่ม Recoverit data recovery
ระบบคอมพิวเตอร์ติดเชื้อไวรัสและมัลแวร์และทำลายระบบไฟล์ที่ถูกเก็บไว้บนฮาร์ดไดรฟ์ ไว้รัสและซอฟแวร์ที่เป็นอันตรายเหล่านี้มักเข้าสู่ระบบจากแหล่งภายนอก ตัวอย่างเช่น อินเตอร์เน็ตและฮาร์ดไดรฟ์แบบพกพา ไว้รัสเหล่านี้จะทำลายฮาร์ดดิสก์เป็นสิ่งแรกและจากนั้นจะแพร่ไปยังส่วนอื่นของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกัน
อัปเดตระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์อยู่เสมอเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ปัญหา ยิ่งไปกว่านั้น อีกวิธีที่ใช้ได้คือ การติดตั้งและอัปเดตโปรแกรมป้องกันไวรัสเสมอ โปรดแกรมนี้จะช่วยป้องกันคอมพิวเตอร์ของคุณและฮาร์ดไดรฟ์และมั่นใจได้ว่าปลอดภัยจากภัยคุกคาม
ฮาร์ดดิสก์ที่ไม่มีการทดสอบก่อนส่งถึงผู้ใช้งานทำให้เกิดปัญหาหลังการใช้งาน 2-3 เดือน โดยทั่วไปปัญหานี้มักเกิดกับฮาร์ดดิสก์ใหม่ สาเหตุนี้มักเกิดจากความผิดพลาดของการผลิตซึ่งทำให้เกิดปัญหา
วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหานี้คือเพิ่มความระมัดระวังเมื่อซื้อฮาร์ดดิสก์ใหม่ ควรทดสอบฮาร์ดดิสก์ก่อนที่จะติดตั้งบนเครื่องของคุณ อย่างไรก็ตาม หากคุณมีฮาร์ดดิสก์ที่การผลิตผิดพลาดและเกิดปัญหา ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือนำไปเปลี่ยน
ความร้อนเป็นสาเหตุทั่วไปที่เกิดกับฮาร์ดดิสก์ หากใช้งานเครื่องมากเกินไป พัดลมของฮาร์ดดิสก์เริ่มหมุนช้าและระบบเริ่มร้อนทันทีหลังจากการบูต นอกจากนี้ยังเกิดเสียงอีกด้วย ซึ่งนี่คือสัญญาณฮาร์ดดิสก์ร้อนเกินไป สาเหตุคือพัดลมทำงานไม่เต็มที่หรือข้อผิดพลาดของพัดลม CPU ซึ่งร้อนเกินไปจนทำให้ฮาร์ดดิสก์เสียหาย
วิธีการแก้ปัญหาความร้อนคือตรวจสอบว่าพัดลมของ CPU ติดตั้งอย่างถูกต้องและให้ความเย็นเพียงพอกับฮาร์ดดิสก์ ยิ่งไปกว่านั้นคุณสามารถติดตั้งแอปพลิเคชั่นที่ช่วยแจ้งเตือนเกี่ยวกับอุณหภูมิของฮาร์ดดิสก์ หากร้อนจนเกินไปให้ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณสักพักเพื่อให้เครื่องเย็นลง
เราได้พูดถึงปัญหาเฉพาะของฮาร์ดไดรฟ์และแนวทางแก้ไขในส่วนก่อนหน้าแล้ว ผู้ใช้งานมีเวลาในการตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับฮาร์ดดิสก์ ด้วยเหตุนี้ คุณควรดำเนินการแก้ปัญหาตามคำแนะนำต่อไปนี้
หากฮาร์ดไดรฟ์ร้อนเกินไป วิธีนี้จึงช่วยแก้ปัญหาได้ ปิดเครื่องและพักเครื่อง 2-3 นาที เปิดใช้งานอีกครั้งหลังจากที่เครื่องไม่ร้อนแล้วและบริเวณรอบ ๆ ระบายอากาศได้ดี
หากปัญหาของฮาร์ดไดรฟ์เกิดจากมัลแวร์หรือข้อผิดพลาดทางตรรกะ ดังนั้นคุณเพียงแค่ล้างข้อมูลเพื่อแก้ปัญหา หากปุ่มฮาร์ดไดรฟ์ไม่ปรากฎบน My Computer ให้เปิดการใช้งานเครื่องมือ Disk Management เลือกที่ว่างของดิสก์ คลิกขวาและเลือกล้างข้อมูล ยืนยันและรอการล้างข้อมูลทั้งหมด
หากฮาร์ดดิสมีปัญหาเล็กน้อย คุณสามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดายโดยใช้การซ่อมแซมอัตโนมัติ เพื่อดำเนินการ คุณสามารถใช้งานเครื่องมือช่วยเหลือเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น ยูทิลิตี้ดิสก์ของ Mac เป็นตัวเลือกที่ดีเพื่อซ่อมแซมฮาร์ดไดรฟ์ทำงานผิดปกติ เพียงแค่เปิดใช้งาน Disk Utility เลือกไดรฟ์ของคุณและกดที่ First Aid เพื่อซ่อมแซม
หากคุณใช้งานระบบปฏิบัติการดอส DOS-based operating system คุณเพียงแค่ใช้การช่วยเหลือของคำสั่งการ Check Disk (CHKDSK) เพื่อใช้งานคำสั่งนี้ ให้เปิดการใช้งาน Terminal/Command Prompt บนเครื่องของคุณและพิมพ์คำสั่งการ CHKDSK แล้วตามด้วยชื่อไดรฟ์ที่ต้องการตรวจสอบ คอมพิวเตอร์เริ่มตรวจสอบอย่างระมัดระวังและกำจัดปัญหาออกไป
ในตอนนี้คุณสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของฮาร์ดไดรฟ์และปัญหาที่เกี่ยวข้องได้แล้ว หากไม่ต้องการประสบปัญหาเหล่านี้ในอนาคต ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
ผู้ใช้งานหลายคนไม่รู้ว่าคุณสามารถตรวจสอบฮาร์ดดิสก์บนระบบปฏิบัติการ Windows ได้ค่อนข้างง่าย สิ่งที่คุณต้องทำคือเปิดการใช้งาน Command Prompt และใส่คำสั่งการ wmic ซึ่งย่อมาจาก Windows Management Instrumentation Command และจะตรวจสอบการทำงานของดิสก์ หากฮาร์ดดิสก์ไม่ปลอดภัยให้สำรองข้อมูลและซ่อมแซมตามขั้นตอน
หากเก็บข้อมูลบนฮาร์ดไดรฟ์มากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อการทำงานทั้งหมด โปรดมั่นใจว่าพื้นที่เก็บข้อมูลว่างอย่างน้อย 20% ของพื้นที่ทั้งหมดเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น
พยายามไม่ปิดเครื่องขณะที่แอปพลิเคชั่นหรือกระบวนการทำงานยังคงทำงานอยู่ สิ่งนี้ส่งผลต่อระบบไฟล์หรือกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดดิสก์
หากไม่ต้องการประสบปัญหาใด ๆ หรือถูกการโจมตีจากมัลแวร์ ให้อัปเดตระบบอยู่เสมอ มันจะติดตั้งไฟล์พิเศษและอัปเดตไดรเวอร์ให้ใหม่อยู่เสมอ
สุดท้ายนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหลีกเลี่ยงการกระทำที่ไม่พึงประสงค์หรือความเสียหายจากน้ำเข้าระบบของคุณ และมั่นใจว่าดิสก์ไม่สัมผัสกับแม่เหล็กซึ่งจะทำให้ข้อมูลหายได้ ให้เครื่องสามารถระบายอากาศได้หรืออยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทเพื่อไม่ให้เครื่องร้อนเกินไป
ต่อไปนี้คือเคล็ดลับที่คุณต้องจำให้ได้หากไม่ต้องการให้ข้อมูลสำคัญหายไป
Dea N.
staff Editor